สมาชิกเฟซบุ๊ก “สุรศักดิ์ ชูอ่อน” ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของ 3 แม่ลูก ที่ถูกทิ้งและรอความช่วยเหลือ โดยระบุว่า เพื่อนขับรถไปซื้อของที่ตัวอำเภอย่านตาขาว จ.ตรัง ระหว่างทางกลับบ้านไปเจอ 3 แม่ลูกยืนโบกขอความช่วยเหลืออยู่ริมถนน จึงได้จอดถามไถ่แล้วพาไปส่งที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งทางเปลี่ยวมาก
ต่อมาทราบว่าผู้เป็นแม่ถูกแฟนทิ้งและต้องดูแลลูก 2 คนตามลำพัง ที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของญาติแฟน ไม่มีบ้านเลขที่ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีแม้กระทั่งน้ำดื่มที่จะชงนมให้ลูกคนสุดท้องกิน เพื่อนจึงขับรถไปซื้อน้ำมาให้ 2 ขวด ทั้งที่ตัวเพื่อนมีเงินแค่ 20 บาท และรถน้ำมันก็ไกล้หมด
เย็นวันถัดมาเจ้าตัวจึงได้ไปที่บ้านหลังดังกล่าวตามที่เพื่อนเล่าให้ฟังในช่วงค่ำ ก็พบว่าบ้านเหมือนบ้านร้าง มืดสนิท พร้อมกับมีเสียงเด็กร้อง ก่อนเข้าไปพูดคุยกับพี่เมย์ อายุ 31 ปี ผู้เป็นแม่ กำลังนั่งอยู่ในความมืดมิด เพื่อดูแลลูกชายวัย 5 ขวบ และลูกสาวคนเล็กอายุเพียง 8 เดือน เพิ่งหัดคลาน โดยมีเพียงเทียน 2-3 เล่ม ที่ขอมาจากวัด
ซึ่งพี่เมย์เล่าให้ฟังว่า เพิ่งเลิกกับสามีได้ 2 เดือน และทิ้งให้อยู่เดียวดายกับลูกน้อย ต้องอดมื้อกินมื้อ รวมทั้งลูกก็ป่วยเพิ่งออกจากโรงพยาบาล โดยมีนมผง 1 กล่องที่พยาบาลเรี่ยไรเงินซื้อให้ เมื่อได้รับรู้เรื่องราว ผู้โพสต์จึงได้รวบรวมเงินจากเพื่อนๆ ได้ประมาณ 2 พันบาท แล้วไปซื้อของใช้จำเป็นเช่นนมผง แพมเพิร์ส บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง และเครื่องทำครัว ซึ่งของเหล่านี้ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้กี่วัน
ขณะที่ผู้โพสต์คิดว่าจะพาไปเช่าบ้านราคาถูกๆ เพื่อให้คนส่งสิ่งของมาช่วยเหลือได้ จากนั้นได้พาไปเปิดบัญชีธนาคาร โดยไม่มีบัตรเอทีเอ็ม และให้พี่เมย์ สามารถเบิกได้คนเดียวเพื่อป้องกันมิจฉาชีพ
ล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์ว่า ได้สอบถามไปยังชาวบ้านและหน่วยงานในพื้นที่ ก็ทราบว่าบ้านหลังกล่าว เลขที่ 3 หมู่ 2 ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง รหัสไปรษณีย์ 92180 ซึ่งพี่เมย์ระบุอีกว่า ลูกดื่มนมผง “รสจืด” ได้ทุกอย่างยกเว้น “S26” ส่วนแพมเพิร์ส “เบอร์ M” สำหรับเงินที่ได้รับรจาคพี่เมย์บอกว่า จะนำไปลงทุนประกอบอาชีพ “ขายผลไม้แบบรถเข็น” เพื่อต่อยอดเงินที่ได้ไปเลี้ยงดูลูก และในวันพรุ่งนี้ทางการไฟฟ้าจะเข้ามาติดตั้งไฟฟ้าให้ นอกจากนี้ยังมีผู้นำชุมชนและหน่วยงานต่างๆ เริ่มมาให้การช่วยเหลือแล้ว
