เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

 เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 มีนาคม  ที่พรรคพลังประชารัฐ โดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้แถลงท่าทีหลังทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ระบุว่า ยืนยันแนวทางที่ได้ยืนยันมาแต่ต้น ที่ว่าพรรคได้ได้เสียงข้างมากก็จัดตั้งรัฐบาลได้ ดูตอนต้นแล้ว พรรคพปชร. ได้เสียงมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ จากนนี้จะไปหารือพูดคุยกับพรรคการเมืองที่มีผู้สมัครได้รับการเลือกตั้ง และมีอุดมการณ์ แนวทาง การบริหารจัดการ ตรงกัน นำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลต่อไป อย่างที่พี่น้องปชช. อยากเห็น เป็นไปตาม รธน.

ตอนนี้ไม่ได้ปิดกั้นพรรคอื่นๆ ที่พยายามจะจัดตั้ง ในส่วนพรรคเพื่อไทยที่ได้ที่นั่งมากที่สุด ก็ต้องดูเจตนารมย์ของ รธน.ฉบับนี้ ที่มีคะแนนนิยมของพี่น้องประชาชน ทั้งประเทศ หลักการคือ ทุกคะแนนของประชาชนไม่ได้ถูกทิ้งลงไป จำนวน ส.ส. ที่พึงมี จะต้องอยู่บนคะแนนรวมจากเสียงของพี่น้องทั้งประเทศ เสียงที่ได้รับความไว้วางใจ เป็นเสียงที่ถูกนับ พรรคพปชร. ถือว่าเป็นพรรคที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุด เป็นความชอบธรรมของพรรค ที่จะดำเนินการตามเจตนารมย์ ไม่มองข้ามเสียงใดเสียงหนึ่ง การแพ้ชนะบางเขต บางเขตแพ้กันแค่หลักร้อย แล้วจะไม่นับอย่างนั้นหรือ พิจารณาแล้วเราได้รับความไว้วางใจสูงสุดในแง่ของคะแนนรวม ใครที่มีเสียงส่วนใหญ่ในสภา จะได้เป็นรัฐบาล พรรคพปชร.กำลังดำเนินการ

ส่วนเรื่องการหาพรรคร่วมมาตั้งรัฐบาล ตอนนี้เริ่มพูดคุยกันแล้ว และมั่นใจว่าน่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ ให้เร็วที่สุด แต่ยังบอกเวลาตายตัวไม่ได้ ตอนนี้ยังอยู่ในการพูดคุย การดำเนินการหารือสามารถทำไปได้เลย ตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้ให้คำแนะนำอย่างไร

ส่วนเรื่องพรรคร่วม ต้องมีเงื่อนไข คือ ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน มีความสอดคล้องกันเรื่องนโยบาย สุดท้ายแล้วก้ไปทำงานให้ประชาชน ตอนนี้คงขอเวลาดำเนินการ ยังไม่พาดพิงถึงพรรคไหน พรรคพปชร. เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ มาตลอด และที่พรรคได้รับเสียงถึง 7.9 ล้านเสียง เพราะคนต้องการ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ