เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวันที่ 8 เมษายน   น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระทรวงการต่างประเทศออกมาระบุว่าไม่ได้เป็นคนเชิญทูตมาสังเกตการณ์การเข้ารายงานตัวของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่สน. ปทุมวันแต่นายธนาธรเป็นผู้เชิญด้วยตัวเองนั้น ว่า คดีนี้ทางสถานทูตติดต่อสอบถามเข้ามาตั้งแต่แรก ซึ่งทางพรรคอนาคตใหม่มีสัมพันธ์ที่ดีกับหลายๆสถานทูตโดยเฉพาะทางยุโรป และยูเอ็น ซึ่งสถานทูตมีความกังวล เพราะข้อหายุยงปลุกปั่นในทางสากลเป็นข้อหาร้ายแรง และการนำพลเรือนขึ้นศาลทหาร จึงแจ้งความจำนงค์ว่าอยากมาสังเกตการณ์

จากกรณี คสช. ออกมาระบุว่าการดำเนินคดีกับนายธนาธรไม่ได้ใช้กระบวนการยุติธรรมเพื่อปิดปากฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองนั้น น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ที่คสช. จะพูดและเป็นวิจารณญาณของประชาชนว่าจะเชื่อแบบไหน เชื่อว่าประชาชนจะมองออก เพราะอย่างที่บอกคดีเกิดขึ้นเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว แต่มาดำเนินการในช่วงหลังเลือกตั้งเพียงแค่ 1 สัปดาห์ ก็ค่อนข้างชัดเจน รวมถึงจะมีการดำเนินดคีกับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธรด้วย แต่พรรคและนายธนาธรจะสู้ไปตามกระบวนการยุติธรรม และเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมจะดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม

ถามว่าเราเป็นคนเชิญมาไหม ของแบบนี้ก็ต้องบอกว่าถ้าทางสถานทูตไม่เห็นความสำคัญต่อให้เชิญยังไงเขาก็ไม่มา อย่างทางยูเอ็นโทรมาบอกเราเองว่าจะไป และส่งหนังสือไปบอกสน.ปทุมวันแล้วว่ายูเอ็นจะไป ถ้าไปถามสน.ปทุมวันจะทราบว่ายูเอ็นส่งหนังสือไปเองเลย ว่าจะขอไปสังเกตการณ์ สถานทูตอื่นก็เช่นเดียวกัน ถามว่าเราติดต่อสถานทูตไว้ล่วงหน้า รู้ล่วงหน้าหรือไม่ เรารู้เพราะเราต้องเช็คและเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้รับรอง แต่เรื่องแบบนี้ตามธรรมเนียมทางการทูตถ้าเขาไม่เห็นความสำคัญเขาไม่ไปอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวว่าใครเชิญไม่เชิญ