แฟนสาวท้อง 7 เดือน ถูกพ่อเลี้ยงทุบดับ เศร้าเสียทั้งภรรยาและลูก แค้นคนร้ายสุดเหี้ยม หวังโดนจับตายหรือประหาร ให้เพื่อนวินกว่า 50 คน ตามล่าตัว
จากข่าวสะเทือนขวัญกรณี นายภูมิใจ เหลืองทอง อายุ 55 ปี ก่อเหตุใช้ค้อนทุบ น.ส.นันท์ชยา อายุ 29 ปี ลูกเลี้ยงซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน เสียชีวิตในบ้านพัก โดยสาเหตุเพราะแค้นภรรยาซึ่งเป็นแม่ของผู้ตายหลังมีปากเสียงกันนั้น
นายธนวัฒน์ แก้วคำสอน อายุ 29 ปี แฟนของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนทั้งโกรธ ทั้งแค้น ทำไมคนก่อเหตุถึงทำกันได้ขนาดนี้ ทั้งที่แฟนตนยังตั้งครรภ์อยู่ เดือนหน้าจะคลอดแล้ว โดยคิดว่าการกระทำเช่นนี้ ผู้ก่อเหตุคงวางแผนไว้แล้ว เพราะเขารอเวลาที่ให้ทุกคนไม่อยู่บ้านแล้วขึ้นไปก่อเหตุ พร้อมมีกุญแจ มีอาวุธที่เตรียมไว้
นายธนวัฒน์ กล่าวต่อว่า ตนฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับคนร้ายได้โดยเร็ว หากจับได้แล้วผู้ก่อเหตุมาขอขมา ตนก็ไม่รับเด็ดขาด ต้องประหารสถานเดียว หรือถ้าไม่จับเป็นก็ต้องจับตาย เพราะพฤติกรรมโหดเหี้ยมขนาด แม้ต้องการฆ่าคนยังไม่ใช่ปืน กลับใช้ค้อนทุบแฟนตนอย่างทรมานจนเสียชีวิต
น.ส.จิราภา พันงาม น้าของผู้เสียชีวิต เล่าว่า นายภูมิใจมีอาชีพวินมอไซต์รับจ้างและขับแท็กซี่ โดยก่อนหน้านี้ ผู้ก่อเหตุมีเรื่องทะเลาะกับแม่ผู้ตาย มีการข่มขู่กับแม่ผู้ตายหากไม่คืนดีกับนายภูมิใจว่า “ถ้ากูไม่มีความสุข ก็อย่าหวังว่าใครจะมีความสุข ” และมีการข่มขู่อีกว่า “ถ้าทำแม่ไม่ได้ก็จะทำคนรอบข้าง” ก่อนเกิดเหตุ แม่ผู้ตายโทรมาขอร้องให้ตนช่วยเฝ้าบ้านที่เกิดเหตุ เพราะนายภูมิใจโทรไปขู่แม่ผู้ตายว่าจะฆ่าตัวตาย ซึ่งแม่ผู้ตายกังวลว่านายภูมิใจจะไม่ได้ฆ่าตัวตายอย่างเดียว แต่อาจทำอย่างอื่น เช่น เผาบ้าน หรือทำร้ายร่างกายคนรอบข้าง
ตนคาดการณ์ว่า วันที่เกิดเหตุ นายภูมิใจน่าจะอาศัยจังหวะเข้าไปในห้องของหลานสาว เนื่องจากว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตา จึงธรรมดาที่ไม่มีใครผิดสังเกตในการเดินเข้า–ออก บ้าน พอได้จังหวะเข้าไปในห้องหลานสาว ซึ่งตนคาดว่าน่าจะมีการทำร้ายต่อสู้กัน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุใช้ค้อนตอกตะปู ทุบไปที่ศีรษะจนเป็นแผลฉกรรจ์ ทุบไปที่ท้องซึ่งตั้งครรภ์ของหลานสาว อีกทั้งยังพบรอบบาดแผลที่ข้อมือขวา และหูซ้ายฉีกขาด จากนั้นจึงหลบหนีไป
ทั้งนี้ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการสอบสวนจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว เพื่อเยียวยาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม พร้อมยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราและป้องกันเหตุประทุษร้ายต่อชีวิตหรือทรัพย์สินของประชาชน
ล่าสุด วันที่ 12 เมษายน ขณะนี้กลุ่มเพื่อนวินมอเตอร์ไซค์ไม่ต่ำกว่า 50 คน กำลังช่วยกันติดตามนายภูมิใจมาดำเนินคดี ส่วนศพของนางสาวนันท์ชยา จะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดสัมมาชัญญาวาส (วัดใหม่) ถนนพระยาสุเรนทร์ ก่อนมีพิธีฌาปนกิจ วันที่ 17 เมษายน นี้
