เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 8 มิ.ย. นางนิตยา ขจรกลิ่น อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/4 ถนนพระพิจิตร ในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร กล่าวว่า จากกรณีเมื่อปี 2559 จ.พิจิตรได้ประสบปัญหาอย่างหนักเรื่องของภัยแล้งน้ำในบึงสีไฟ ซึ่งเป็นบึงใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ เนื้อที่ 5,000ไร่ แห้งขอด ทั้งที่บึงสีไฟแห่งนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เชิดชูตาของจ.พิจิตร ปรากฏว่าหลังจากที่เกิดปัญหารัฐบาลสมัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยขณะนั้น พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาจ.พิจิตร และได้มีการอนุมิติงบประมาณ 25 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการของชลประทานสร้างแพสูบน้ำจากแม่น้ำน่านเข้าสู่บึงสีไฟที่บริเวณแม่น้ำน่านบริเวณบ้านวังตาดี ต.ท่าหลวง อ.เมืองพิจิตร สร้างเสร็จตั้งแต่ปี 2558/2559

 

 

นางนิตยา กล่าวอีกว่า หลังจากสร้างเสร็จ ก็ไม่ได้ใช้ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร นอกจากนี้มีการเกี่ยงกันรับผิดชอบในการดูแล สาเหตุต้นทุนเรื่องค่าไฟในการสูบน้ำสูงถึงชั่วโมงละ 600 บาท จึงทำให้แพเครื่องสูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้ามูลค่า 25 ล้านบาทนี้ไม่มีใครยอมรับเป็นเจ้าภาพ อ้างว่าไม่มีงบประมาณในการดูแล

 

 

นางนิตยา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้สิ่งที่เป็นปัญหาแพสูบน้ำนี้ได้หลุดลอยออกไปจากจุดที่ติดตั้ง โดยลอยไปติดอยู่ที่ต.วังกรด อ.เมืองพิจิตรห่าง ออกจากจุด ไป 6 กม. ชาวบ้านเห็นจึงดึงมามัดไว้ริมตลิ่ง แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่า ไม่ว่าจะเป็นจังหวัด หรือทางภาครัฐ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สนใจ ซึ่งยอมรับว่าเสียดายงบประมาณ 25 ล้าน

 

 

นางนิตยา กล่าวอีกว่า ตนในฐานะประชาชนอยากฝากไปยังรัฐบาลชุดใหม่ รัฐมนตรีชุดใหม่ลงมาตรวจสอบ อยากให้สั่งให้หน่วยงาน หรือจังหวัดออกมาแก้ไข เพราะเสียดายงบประมาณ นำมาก่อสร้างแล้วไม่ใช้ และไม่ดูแล กลับถูกน้ำพัดไปแบบของไร้ค่า แล้วไม่มีหน่วยงานเอากลับ