จากกรณีวันที่ 11 มิ.ย ที่ผ่านมา น.ส.แนน (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีว่า ตนมีลูกติดชื่อน้องหนึ่ง (นามสมมุติ) วัย 4 ขวบ ถูกนายแมน (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี พนักงานขับรถส่งของ ทำร้ายจนมีรอยฟกช้ำตามตัวระยะหลังน้องหนึ่งมีอาการเหม่อลอย กระทั่งวันที่9 มิ.ย. นายแมนโทรมาบอกว่าน้องหนึ่งหกล้มในห้องน้ำ อัณฑะมีรอยแดงช้ำจึงนำน้องหนึ่งส่งที่ รพ.นวมินทร์ 9 แพทย์ระบุตับฉีกเลือดออกในช่องท้องลูกอัณฑะบวมแดงช้ำรูทวารฉีกต่อมาส่งตัวน้องหนึ่งไปที่ รพ.ตำรวจ ล่าสุด สั่งให้ชุดสืบสวนนำตัวนายแมนมาสอบปากคำ เบื้องต้น นายแมนรับว่า ทำร้ายน้องหนึ่งจริงเพราะโมโหที่ชอบร้องไห้ส่วนที่รูทวารหนักมีร่องรอยฉีก เพราะตนใช้นิ้วแหย่เข้าไป ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบล่าสุด วันที่ 12 มิ.ย. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่า ขณะนี้ทางโรงพยาบาลตำรวจรับตัวน้องหนึ่งไว้ เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดและรักษาอาการบาดเจ็บ ซึ่งน้องหนึ่งเองยังมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ นักจิตวิทยาของ รพ.ตำรวจ จะช่วยฟิ้นฟูสภาพจิตใจ อย่างไรก็ตามมูลนิธิปวีณาฯจะให้การช่วยเหลือครอบครัวน้องหนึ่งและพาไปกรมคุ้มครองสิทธิกระทรวงยุติธรรมเพื่อติดต่อขอรับเงินเยียวยาผู้เสียหายทางคดีต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.นิเวชร์ งามลาภ รองผกก.สส. สน.มีนบุรี เปิดเผยว่าภายหลังที่ชุดสืบสวนสน.มีนบุรีติดตามจับกุมตัวนายอานนท์ ศิริวรพันธ์ 24 ปี พ่อเลี้ยงรายนี้มาได้ที่บ้านพักในย่านบางชันสอบสวนเบื้องต้นพ่อเลี้ยงรายนี้ให้การว่า ตนไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กตามที่ได้มีข่าวว่าเด็กบาดเจ็บและทวารฉีกขาดว่าตนใช้นิ้วทายาให้เท่านั้น
ส่วนที่ว่ามีใบกระท่อมติดปากและจมูกของเด็กคาดว่า เด็กน่าจะแอบไปกินเองเพราะตนชงผสมน้ำอัดลมไว้ อย่างไรก็ตามคนร้ายไม่มีประวัติก่อเหตุอาชญากรรมมาก่อน เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส” และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้นำตัวส่งศาลอาญามีนบุรีเรียบร้อยแล้ว
ในส่วนการสอบปากคำเด็กวัย 4 ขวบ นั้น วันนี้ทางมูลนิธิปวีณาฯ จะย้ายเด็กจากรพ.นวมินทร์ 9 ไปรักษาตัว ที่รพ.ตำรวจหากแพทย์อนุญาตให้สอบปากคำได้ก็จะเร่งนัดสหวิชาชีพเข้าสอบปากคำทันที พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับพ่อเลี้ยง
ภาพและข้อมูลจากKhaosod