วันที่ 20 มิ.ย. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เกิดเหตุบุหรี่ไฟฟ้าระเบิดคาปากเด็กวัยรุ่นอเมริกันอายุ 17 ปี ขณะกำลังสูบอยู่ในรถรางขนส่ง ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ปากแตก ฟันหัก และกระดูกคางแตก ที่รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เหตุที่เกิดขึ้นทำให้ทางครอบครัวต้องเร่งพาตัวลูกชายที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสไปยังศูนย์การแพทย์เฉพาะทางที่รัฐยูทาห์ ซึ่งอยู่ห่างไปกว่า 400 กิโลเมตร ซึ่งคณะแพทย์ต้องรีบนำตัวเข้าผ่าตัดฉุกเฉินทันที
แพทย์หญิงเคธี รัสเซลล์ กล่าวว่า คนทั่วไปจำเป็นต้องตระหนักถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า เพราะมีความเป็นไปได้สูงที่มันอาจระเบิดในกระเป๋ากางเกง หรือระเบิดใส่หน้าได้ รายงานระบุว่า ผลการศึกษาในสหรัฐพบเหตุบุหรี่ไฟฟ้าระเบิดและทำให้มีผู้บาดเจ็บต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกว่า 2,000 ครั้ง ระหว่างปี 2558-2560 แต่ประชาชนยังไม่ตระหนักถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า
การศึกษาพบว่า เด็กมัธยมฯ ปีดังกล่าวในสหรัฐกว่าร้อยละ 40 นิยมสูบบุหรี่ไฟฟ้า เคยมีการระเบิดที่เกือบทำให้วัยรุ่นชายที่รัฐโอเรกอนเกือบสูญเสียดวงตาข้างหนึ่ง อีกกรณีหนึ่งทำให้วัยรุ่นสาวบาดเจ็บมีแผลไฟลวกตามแขน ส่วนอีกรายถึงขั้นตาบอด ด้านองค์การอาหารและยาสหรัฐ หรือเอฟดีเอ เคยกล่าวแสดงความกังวลต่อกรณีความร้อนพุ่งสูงและการระเบิดที่เกิดขึ้นในบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้ปฏิบัติตามคู่มืออย่างเคร่งครัด รวมถึงหลีกเลี่ยงการชาร์จบุหรี่ไฟฟ้าข้ามคืน และชาร์จทิ้งไว้เป็นเวลานาน
ขณะที่พญ.รัสเซลล์ แนะนำว่า “วิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงจากการระเบิดของบุหรี่ไฟฟ้า ก็คือเลิกสูบบุหรี่ดีที่สุดค่ะ”