สุดสะเทือนใจ!ภารโรงขืนใจ นร.ม.2 คาโรงเรียนหลายครั้ง พอเรื่องแดงแขวนคอตายหนีผิด
ภารโรงเครียดแขวนคอตายคาอาคารเรียนโรงเรียนฯ หนีความผิดข่มขืนนักเรียน ม.2 วัย 14 ปี
ด้านเด็กที่ตกเป็นเหยื่อขาดเรียน 3 วันติดต่อกันแล้ว หลายหน่วยงานเร่งหาทางเยียวยาสภาพจิตใจ
วันนี้(4 ก.ค.)พ.ต.ท.สมเกียรติ หมวกทอง รอง ผกก.(สอบสวน) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.
พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า นางเอ (นามสมมุติ) ชาวบ้าน อ.พรหมพิราม ได้พาลูกสาวคือ ด.ญ.บี
(นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 เข้าแจ้งความร้องทุกข์เมื่อ 2 ก.ค.ที่ผ่านมาว่าถูกนายทองล้วน ภาร
โรงของโรงเรียนข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้งในห้องพักของภารโรง
นางเอ ยืนยันว่า สังเกตเห็นอาการผิดปกติของลูกสาวที่เคยเป็นเด็กรื่นเริงสนุกสนาน แต่ระยะหลังกลับเป็น
คนเก็บตัวเงียบขรึม นอกจากนี้ยังพบยาคุมฉุกเฉินอยู่ในกระเป๋ากระโปรง เมื่อเค้นถามลูกจึงยอมรับว่าถูกภาร
โรงคนดังกล่าวข่มขืนช่วงเวลาพักเที่ยงภายในห้องของภารโรงเองหลายครั้ง แต่ก็ไม่กล้าเอาเรื่องไปบอกใคร
เนื่องจากกลัวจะอับอาย
พ.ต.ท.สมเกียรติ ระบุอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกภารโรงของโรงเรียนดังกล่าวมาสอบปากคำใน
วันต่อมา(3 ก.ค.)กระทั่งเย็นวันเดียวกัน ก็ได้รับแจ้งเหตุคนผู้คอเสียชีวิตภายในโรงเรียน เมื่อรุดไปตรวจสอบ
พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพรหมพิราม และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน พบจุดเกิดเหตุ
เป็นอาคารไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา
โดยพบศพผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายทองล้วน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ภารโรงของ
โรงเรียนดังกล่าวที่ถูกกล่าวหา ได้ใช้เชือกไนล่อนสีเขียวผูกคอกับคานหน้าต่าง ลิ้นจุกปาก มีรอยเขียวช้ำที่
ลำคอ นอกจากนี้ยังพบกระดาษเขียนข้อความด้วยปากกาสีแดงระบุว่า “พี่ครับผมขอโทษ ดูลูกผมด้วย” คาด
ว่าน่าจะเป็นลายมือของผู้ตาย ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จึงมุ่งประเด็น สาเหตุภารโรงเครียดผูกคอตายคา
“ทั้งนี้ผู้ตายเคยมีภรรยาและลูกชายด้วยกัน 2 คน แต่ก็ได้หย่าร้างแยกทาง เมื่อถูกแจ้งความดำเนินคดี น่า
จะเกิดความเครียดแล้วคิดสั้นผูกคอตัวเองกับคานหน้าต่างอาคารเรียน”
พ.ต.ท.สมเกียรติ กล่าวอีกว่า ขั้นตอนต่อไปเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกตัวแม่เด็กและเด็กหญิงที่ถูกข่มขืนกระ
ทำชำเรา มาสอบปากคำร่วมกับทีมสหวิชาชีพ ส่วนเรื่องของคดีความ ก็จะเร่งทำสำนวน แต่อาจจะไม่ถูกสั่ง
ฟ้องเนื่องจากผู้ก่อเหตุเสียชีวิตไปแล้ว
สำหรับบรรยากาศภายในโรงเรียนที่เกิดเหตุ เช้าวันนี้(4 มี.ค.) ยังคงมีเด็กนักเรียนระดับชั้นอนุบาล-มัธยม
ศึกษาตอนต้นมาเรียนตามปกติ แต่อาคารเรียนชั้นประถมศึกษาที่เกิดเหตุภารโรงผูกคอเสียชีวิต ถูกสั่งปิด
อาคารชั่วคราวเป็นเวลา 4 วัน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ศึกษานิเทศก์จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ก็ได้ลง
พื้นที่ตรวจสอบและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อรายงานไปยังผู้บริหารให้รับทราบ นอก
จากนี้ยังให้ครูประจำชั้นของ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ติดตามไปพูดคุยกับเด็กที่
บ้าน หลังจากไม่มาโรงเรียน 3 วันติดต่อกัน พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเยียวยาสภาพจิตใจของ
เด็กต่อไป.
******************************
(ขอขอบคุณภาพจาก ผู้จัดการออนไลน์)