“พะยูน” ตายเป็นตัวที่ 4 คาดฝีมือขบวนการ”ล่าเขี้ยว”ทำของขลัง
เว็บเพจกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รายงานว่าชาวประมงพื้นบ้านพบพะยูนตายเป็นตัวที่ 4 แล้ว
ทั้งนี้ นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ รายงานต่อกรม
อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านว่าพบ
ซากพะยูนขนาดใหญ่ ลอยอยู่ในทะเลระหว่างเกาะปู กับเกาะพีพี ซากพะยูนมีขนาดใหญ่เรือหางไม่สามารถ
ลากได้
จึงได้ช่วยกันเอาเชือกผูกติดไว้กับเรือ แล้วโทรแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทราบ จึงได้ประสานให้เจ้าหน้าที่
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พพ.3 (รายงานเกาะไม้ไผ่) นำเรือยางท้องแข็งไปที่จุดที่ได้รับแจ้งเพื่อ นำซาก
พะยูนมาไว้ที่เกาะไม้ไผ่ก่อนพบว่าจุดที่พบซากพะยูนอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะไม้ไผ่ ห่างจากเกาะไม้ไผ่
ประมาณ 20 กิโลเมตร
ซึ่งอยู่นอกเขตอุทยานฯ จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่าเป็นพะยูนเพศผู้ ความยาว 2.30 เมตร น้ำหนัก
ประมาณ 400 กิโลกรัมไม่พบบาดแผล บริเวณลำตัวแต่อย่างใด จึงได้ให้เจ้าหน้าที่นำเรือยนต์ตรวจการณ์ของ
อุทยานฯ ไปที่เกาะไม้ไผ่ เพื่อนำพะยูนกลับมาที่ฝั่งแล้วจะนำส่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
วิทยาเขตตรัง เพื่อให้สัตว์แพทย์ผ่าพิสูจน์ซาก หาสาเหตุการตายต่อไป โดยล่าสุด ซากพะยูนมาถึงฝั่งแล้ว
สำหรับพะยูน 3 ตัวแรกที่ตายอย่างผิดปกติ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พบลูกพะยูนตัวผู้อายุไม่ถึง 3 เดือนตาย
บริเวณเกาะเม็ง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พบพะยูนตัวผู้อายุประมาณ 70 ปีความยาว 3 เมตรตายที่บริเวณอ่าวสิเกา มีความ
ผิดปกติคือถูกถอดเขี้ยว
เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต ได้รับ
แจ้งเหตุพบซากพะยูนเกยตื้น บริเวณบ้านคลองนิน เกาะลันตาใหญ่ จ.กระบี่ โดยเป็นพะยูน ตัวผู้ อยู่ในช่วง
วัยรุ่น ขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร น้ำหนักประมาณ 250 กิโลกรัม แต่ถูกถอดเขี้ยวออกไป
ด้านนายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก “Thon
Thamrongnawasawat” ระบุว่า วันนี้มีพะยูนตายเพิ่มอีก 2 ตัว หากนับเฉพาะเดือนนี้ สองสัปดาห์ มีพะยูนเกย
ตื้น 5 ตัว ตาย 4 ตัว รอด 1 ตัว (ยามีล) #พะยูนตายมากเกินไปแล้ว โดยเชื่อว่า กระแสมาเรียม/ยามีล ทำให้
คนไทยหันมาสนใจพะยูนมากขึ้น แต่ความสนใจนี้ต้องทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ต้องทำให้พะยูนอื่นๆ ใน
ทะเลได้รับการดูแลอย่างดี ทราบดีว่า ทุกหน่วยงานกำลังทำเต็มที่ ท่านอธิบดีกรมทะเลก็ออกมาประกาศเฝ้า
ระวัง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายธรณ์เชื่อว่ามีการลักลอบล่า เพื่อเอาเขี้ยวไปเป็นของขลัง โดยสังเกตจากการ
ที่พะยูน 2 ตัวโดนถอดเขี้ยว ซึ่งไม่ว่าจะกรณีใด นายธรณ์เตือนว่า การครอบครองเขี้ยวพะยูน มีบทลงโทษตาม
พ.ร.บ.สงวนคุ้มครอง (2562) ซึ่งมีความรุนแรงมาก ทั้งเสนอว่า ในเมื่อมีพะยูนตายผิดปกติ การเฝ้าระวัง และ
บริหารจัดการด้วยเทคนิคเดิมๆ อาจไม่พอเพียง และอาจต้องมีการลงทุนมากขึ้น ยกระดับจำนวนเจ้าหน้าที่ เครือ
ข่าย ดูแลเรื่องเขตการอนุรักษ์/จำกัดเครื่องมือประมง อุปกรณ์ เทคโนโลยี ฯลฯ ทำระบบให้สมบูรณ์แบบ โดย
ครอบคลุมพื้นที่ทั้งตรัง กระบี่ พังงา
*******************************************************
(ขอขอบคุณภาพจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, Thon Thamrongnawasawat)