วันที่ 3 ส.ค.62 สำนักข่าวบีบีซี รายงานสถานการณ์เขื่อนเหนือเมืองวัลลีย์บริดจ์ มณฑลดาร์บีเชอร์ ทางภาคเหนือของอังกฤษ เสี่ยงจะแตก หลังพบผนังเขื่อนบางจุดพังเสียหาย และทางการกำลังเร่งสูบน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำท็อดด์บรู๊ค เพื่อลดแรงดันน้ำขณะที่กองทัพได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ชีนุกขนถุงทรายมาซ่อมบริเวณผนังเขื่อนที่พังเสียหาย และนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันได้เดินทางมาตรวจดูสถานการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ 2ส.ค.ที่ผ่านมานั้น
สำนักงานตำรวจ สำนักงานสิ่งแวดล้อม และ the Canal and River Trust ซึ่งดูแลเป็นเจ้าของอ่างเก็บน้ำท็อดด์บรู๊ก ยอมรับว่าตอนนี้ มีความเสี่ยงอย่างแท้จริง ที่เขื่อนอาจแตก และน้ำบ่าทะลักท่วมเมืองวัลลีย์ บริดจ์ ที่ตั้งอยู่ด้านล่างเขื่อน ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 6,500 คนและขณะนี้ประชาชนราว 1,500 คนถูกสั่งให้อพยพออกจากบ้านเรือน ไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวทันที ตั้งแต่วันพฤหัสฯ ที่ 1 ส.ค.
ขณะที่ นางเทรีซ คอฟฟีย์ รมว.สิ่งแวดล้อมของอังกฤษกล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ 3 ส.ค.ว่า ตอนนี้ทีมปฏิบัติการในการซ่อมเขื่อนวัลลีย์บริดจ์ กำลังเผชิญปัญหาในการลดระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำท็อดด์บรู๊ค เพราะพื้นดินรอบเขื่อนส่วนมากเป็นดินที่มีความอ่อนนิ่มชุ่มน้ำ จึงทำให้เครื่องสูบน้ำอาจจมลงไปในดิน ในขณะที่เราต้องการลดระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำลง เพื่อตรวจสอบความเสียหายบริเวณผนังเขื่อนด้านล่าง
ท่ามกลางการทำงานแข่งกับเวลาในการเร่งซ่อมผนังเขื่อน แต่แล้ว สำนักอุตุนิยมวิทยาของอังกฤษ ได้เตือนภัยขั้น สีเหลือง คาดการณ์ว่าอาจมีพายุฝนฟ้าคะนองพื้นที่บริเวณนี้ ในวันอาทิตย์ที่ 4 ส.ค. จนมีความเป็นไปได้ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วม จึงยิ่งทำให้สถานการณ์ของเขื่อนที่เมืองวัลลีย์ บริดจ์ ที่เสี่ยงจะแตกอยู่แล้ว ตกอยู่ในขั้นวิกฤติอย่างยิ่ง
