เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. บนโลกออนไลน์เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก หลังสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์เรื่องราวในกลุ่ม “ข่าววงการท่องเที่ยว“ ระบุข้อความอ้างว่า “นี้คือไกด์? ยังเป็นคนไทย ยังมีศาสนา ยกมือไหว้พระอยู่หรือเปล่า สมบัติของชาติรู้เปล่า จาน ชาม กระเบื้อง แต่ละใบ ต้นราชวงศ์จักรีท่านสร้างท่านทำมาตั้งแต่เมื่อไหร่ วัดอรุณแชร์ค่ะแชร์“ ซึ่งเป็นภาพที่ใช้เท้าเหยียบขอบของฐานพระปรางค์วัดอรุณฯ จนกลายเป็นกระแสท้วงติงไม่เหมาะสม บางส่วนมองว่าเป็นเรื่องใหญ่โต ถึงขั้นต้องนำมาโพสต์ในลักษณะเช่นนี้เลยเหรอ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ หญิงสาวผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีคุณค่ามาก เป็นวัดที่เคยตั้งอยู่ในราชธานีกรุงธนบุรี และทราบหรือไม่ว่าจะต้องใช้เวลาบูรณะนานเท่าไหร่ กี่ครั้งต่อกี่ครั้งถึงจะยังคงเป็นพระปรางค์วัดอรุณฯ มาจนถึงปัจจุบัน แต่ทั้งคู่กลับถ่ายรูปพร้อมใช้เท้าไปเหยียบ และยังกอดรัดฟัดเหวี่ยงโดยที่ไม่ฉุกคิดแม้แต่น้อยว่า สถานที่แห่งนี้คือวัดและมีพระปรางค์อันศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้หญิงสาวรายเดิม ยังระบุอ้างด้วยว่า ทั้งคู่ได้พูดจาจาบจ้วงโดยบอกว่า “เดี๋ยวจะไปกราบกระเบื้อง” ซึ่งไม่ใช่เรื่องตลกเลย ตนในฐานะคนไทยคนหนึ่งจึงอยากออกมาปกป้อง อย่างไรก็ดีขึ้นชื่อว่าได้เป็นมัคคุเทศก์แขวนบัตรแล้ว การพานักท่องเที่ยวเยี่ยมชม แต่ตัวเองกลับมาทำลายสมบัติของชาติ ไม่ควรและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
“นี่คือคนที่แขวนบัตรมัคคุเทศก์ไทยหรือ คือคนที่พานักท่องเที่ยวเยี่ยมชมสถานที่ ที่คนไทยนับถือกราบไหว้ ทำไมทำแบบนี้ และสิ่งที่เสียใจที่สุดคือ เป็นมัคคุเทศก์ผู้นำนักท่องเที่ยวกลับทำเสียเอง แล้วอย่างนี้จะบอกกับนักท่องเที่ยวได้อย่างไร กระเบื้องที่คุณเหยียบทราบไหมว่า แต่ละใบทำมาตั้งแต่เมื่อไหร่ สมบัติของชาติคือหน้าตาของชาติ แต่กลับเป็นสถานที่สนุกสนาน เพื่อที่จะให้ได้ภาพเท่ห์และดี” หญิงสาวรายนี้ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบตัว 2 หนุ่มชาวต่างชาติกลางสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มาเที่ยวเมืองไทยแล้วนึกพิเรนทร์ถ่ายรูปโชว์ก้นกลางวัดอรุณฯ โดยนำไปโพสต์อวดเพื่อนบนอินสตาแกรม ซึ่งทั้งคู่ให้การยอมรับสารภาพหน้านิ่งว่าทำจริง จึงได้ส่งดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อย.
ที่มา – เดลินิวส์