จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Red Skull Endgameแชร์คลิปการทารุณกรรมแมว โดยมีคนใช้เท้าเหยียบที่คอของแมว ลักษณะบดขยี้ที่คอจนแมวแน่นิ่งไป พร้อมนำแชตในกลุ่มซึ่งเป็นการพูดคุยของผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนจัดการแมวที่เลี้ยงไว้เองนั้น
ล่าสุด (23 สิงหาคม 2562) มีรายงานว่า จากการตรวจสอบ บ้านของนายกฤติเดช ผู้ต้องสงสัย ซึ่งอยู่ในซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 25 พบว่าเปิดเป็นร้านอาหาร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร ลงพื้นที่มาตรวจสอบด้วย แต่ไม่เจอตัวนายกฤติเดช พบเพียงอาของ นายกฤติเดช
โดย นายศุภกร อาของนายกฤติเดช เผยว่า หลานมาอาศัยอยู่กับตนได้ 3-4 ปีแล้ว ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นนำสัตว์เลี้ยงเข้าบ้าน เพราะบ้านตนเปิดเป็นร้านอาหาร ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์อยู่แล้ว โดยปกติหลานชายจะทำงานช่วงกลางคืน เมื่อวานนี้ตอนเย็นออกไปทำงานปกติ แต่เช้ามายังไม่กลับบ้าน ก็เป็นปกติของเขาที่บางครั้งจะไปนอนบ้านเพื่อนบ้าง
เบื้องต้น ตนทราบข่าวจากพ่อของนายกฤติเดช ว่าวันนี้ช่วงสายหลานชายจะเดินทางไปแสดงตัวที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อลงบันทึกประจำวันว่าตัวเองไม่ได้ก่อเหตุ ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าพื้นไม้ในคลิปที่ถูกแชร์ ก็ไม่ใช่พื้นที่บ้านตน ส่วนเรื่องมีพัสดุเกี่ยวกับแมวมาส่งที่บ้านหรือไม่นั้น ตนก็ไม่ทราบ
ขณะที่ น.ส.ดาว (นามสมมติ) คนรักแมวซึ่งเป็นคนส่งกระบะทรายและทรายแมวส่งไปบ้านของนายกฤติเดช กล่าวว่า ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตนเห็นโพสต์ของนายกฤติเดชในกลุ่มคนรักแมว ระบุประมาณว่าหากแมวไม่มีกระบะทรายจะขับถ่ายอย่างไร ด้วยความสงสาร ตนจึงติดต่อขอบริจาคให้ และจัดส่งไปตามที่อยู่ที่นายกฤติเดชบอก ซึ่งอยู่ในซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ
ทั้งนี้ เท่าที่เคยคุยกับนายกฤติเดช ก็ดูเป็นคนรักแมว ถ่ายรูปแมวมาให้ตนดูด้วย โดยมีแมวที่เลี้ยงไว้ 2 ตัว อ้างว่าเก็บมาจากที่ทำงาน นำมาเลี้ยงไว้ในห้องนอน กระทั่งช่วงกลางเดือนสิงหาคม ตนมาเห็นคนโพสต์เตือนภัยเกี่ยวกับนายกฤติเดช จึงจำได้ว่าเป็นคนเดียวกับที่ตนส่งกระบะทรายไปให้ จึงเข้าไปสอบถาม และได้ข้อมูลว่านายกฤติเดชเคยไปรับแมวของคนอื่นมาเลี้ยง แล้วอ้างว่าแมวหายและยังบอกด้วยว่า เขาต้องแอบเลี้ยงแมว เพราะที่บ้านเขาไม่ชอบ
อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกโกรธมาก หากนายกฤติเดชทำร้ายแมวจริง ส่วนตัวก็สงสารแมว และรู้สึกผิดที่ส่งกระบะทรายไปให้
ภาพและข้อมูลจาก อมรินทร์ทีวี