เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 13 ก.ย. เดลีเมล์ รายงานการลุกฮือของชาวบ้านหลายร้อยคนในเมืองคาเบียนเกค ทางตะวันตกของกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา รวมตัวประท้วงและทำลายประตูทางเข้าของโรงเรียนแห่งหนึ่ง เพื่อแสดงความไม่พอใจหลังเกิดเหตุนักเรียนหญิงวัย 14 ปี ฆ่าตัวตาย เพราะอับอายที่ถูกครูต่อว่าเรื่องรอยเปื้อน เลือดประจำเดือน บนกระโปรง

 

 

แม่ของเด็กหญิงให้สัมภาษณ์ว่า เพราะครอบครัวมีฐานะยากจน เลยไม่มีเงินซื้อผ้าอนามัยให้ลูกสาว วันหนึ่งลูกสาวกลับมาบ้านและเล่าให้ฟังว่ารโดนครูจำหนิหลังจากเห็นรอยเปื้อนเลือดประจำเดือนบนกระโปรง ทั้งยังถูกเรียกว่าเป็นคนสกปรกต่อหน้าเพื่อนๆ ทั้งชั้นเรียน จากนั้นครูยังไล่ให้ออกไปยืนนอกห้องเพื่อลงโทษ และวันเดียวกันเด็กหญิงก็ตัดสินใจผูกคอฆ่าตัวตาย เมื่อข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ชาวบ้านมากกว่า 200 คนในเมืองคาเบียนเกค ส่วนใหญ่เป็นผู้ปกครองของนักเรียน รวมตัวเดินขบวนไปยังโรงเรียนของเด็กหญิงเพื่อเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับครูคนดังกล่าว

 

 

ขณะที่บางส่วนทำลายประตูทางเข้าของโรงเรียน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ปราบจลาจลต้องเข้าควบคุมสลายการชุมนุม รวมถึงยิงแก๊สน้ำตา และจับกุมผู้ประท้วง 5 คนฐานใช้กำลังทำลายทรัพย์สิน ส่วนโรงเรียนยังปิดการเรียนการสอน ทั้งนี้ เมื่อปี 2560 สภาเคนยาผ่านกฎหมายบังคับให้สถานศึกษามอบผ้าอนามัยฟรีให้แก่นักเรียนหญิงที่ลงทะเบียนกับสถานศึกษานั้นๆ ภายหลังองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยข้อมูลว่านักเรียนหญิง 1 ใน 10 คนหยุดเรียนระหว่างเป็นประจำเดือน ส่งผลให้เด็กหลายคนเรียนไม่ทัน และต้องออกจากโรงเรียนในที่สุด