เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผวจ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยตัวแทนทุกภาคส่วนร่วมพิธีเปิดงานเทศกาลส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว สืบสานการแข่งขันกีฬาพื้นบ้านโบราณมหัศจรรย์ตีคลีไฟหนึ่งเดียวในโลก อย่างเป็นทางการท่ามกลางบรรยากาศความหนาวเย็นในพื้นที่ต่ำกว่า 14 องศาเซลเซียสโดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยจากทั่วสารทิศและชาวต่างชาติที่พากันเดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก ณ บริเวณจัดงาน ลานข้างวัดแจ้งสว่าง บ้านหนองเขื่อง ต.กุดตุ้ม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ โดยการละเล่นดังกล่าวมีความเก่าแก่มานานหลายร้อยปีหลังเสร็จสิ้นจากการทำไร่ทำนา

สำหรับการตีคลีไฟ จะใช้ต้นนุ่นหั่นเป็นลูกกลมๆ และนำไปเผาไฟ จนเป็นลูกไฟสีแดงติดไฟลุกโซนกลายเป็นอุปกรณ์การเล่น ให้ผู้เล่นใช้เหง้าไม่ไผ่ ลักษณะคล้ายไม้ฮอกกี้ หรือไม้ตีกอล์ฟ จากนั้นจะนำมาใช้แข่งขันกัน ด้วยการแย่งกันตีลูกคลีไฟที่เผาแล้ว ฝ่ายไหนสามารถตีลูกไฟเข้าประตูฝ่ายตรงข้ามได้มากกว่าก็จะเป็นฝ่ายชนะ ความสนุกสนานตื่นเต้น ที่ลูกคลีจะมีแสงสีแดงไฟพุ่งสวยงาม และเป็นการช่วยคลายหนาวในช่วงฤดูของทุกปีได้อีกทาง นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมทุกสายตาคอยลุ้นด้วยความหวาดเสียว กลัวว่าลูกไฟจะโดนผู้เล่น แต่คนที่หวาดเสียวที่สุดคือผู้รักษาประตู ต้องใช้มือเปล่าจับลูกไฟ สร้างเสียงฮือฮาทุกครั้งที่ลูกไฟถูกตีมายังประตู

ตามประวัติ เล่าว่าการละเล่นแบบนี้ พบเห็นในชุมชนบ้านหนองเขื่อง เดิมทีเรียกกันว่าคลีโหลน คือใช้เหง้าไม้ไผ่ ตีลูกไม้นุ่นซึ่งมีน้ำหนักเบา แข่งกันแบบตีไกล ใครตีไปได้ไกลกว่าเป็นผู้ชนะ ต่อมาก็พัฒนามาเล่นเป็นทีม เผอิญช่วงหนึ่ง อากาศหนาวมีการก่อกองไฟไว้ข้างสนาม ลูกไม้นุ่นถูกตีเข้าไปในกองไฟ กว่าจะเขี่ยออกมาได้ ไฟก็ติดจนลุกไหม้ ด้วยความสนุกสนานติดพันในเกม พอเขี่ยออกมาได้ ก็ใช้เล่นต่อไปทั้งที่ลูกไม้ยังติดไฟ เวลาไม้กระทบลูกคลี ก็จะมีประกายไฟพุ่งเป็นหาง และดูสวยงามและตื่นเต้นมากขึ้น จากนั้นก็เริ่มพัฒนามาจากการตีคลีโหลน จึงเปลี่ยนมานิยมเล่นตีคลีไฟ หลังจากนั้นก็เงียบหายไปอยู่พักหนึ่ง ไม่ค่อยพบเห็นการละเล่นเกือบ 1 ชั่วอายุคน

ก่อนหน้านี้นายอุ่น บุญชู อดีตผู้ใหญ่บ้าน วัย 67 ปี ได้นำมาเล่าให้สื่อมวลชนและคณะครูนักวิชาการผู้ที่สนใจได้รับทราบ จึงเกิดแรงกระตุ้นให้เกิดการแสดงให้คณะชมรมสื่อมวลชน จ.ชัยภูมิและสมาคมนักข่าว จ.ชัยภูมิ ได้ดูและช่วยถ่ายทอด ในงานประจำปีของวัดแจ้งสว่าง ในชุมชนบ้านหนองเขื่อง และได้เป็นจุดเริ่มในการฟื้นกลับมาละเล่นอีกครั้ง จนทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในจังหวัดทราบข่าวก็ได้ช่วยกันหันกลับมาช่วยกันจัดสืบสานงานการเล่นกีฬาโบราณดังกล่าวมาต่อเนื่องกว่า 7ปีแล้ว

ที่มา – new18