วานนี้(6 ต.ค.) ในโซเชียลมีเดียมีการแชร์ข้อความของผู้จัดงานศิลปะแห่งหนึ่ง ที่หอศิลป์ในจังหวัดขอนแก่น หลังจากที่มีผู้เข้าชมงานรายหนึ่งพาบุตรหลานมาด้วย กลับทำผลงานศิลปะแตกเพราะเด็กซน เมื่อมีการเจรจาพบว่าแม่เด็กคนดังกล่าวกลับพยายามต่อรองเจ้าของผลงาน ขอชดใช้ครึ่งราคา อ้างว่ายังเด็ก
เหตุการณ์โดยสรุปก็คือ เมื่อวันที่ 5 ต.ค. หอศิลป์ดังกล่าวจัดแสดงนิทรรศการศิลปะ เป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยมีพิธีเปิดในวันดังกล่าว ขณะที่ทีมงานกำลังทำพิธีเปิดนิทรรศการศิลปะบนชั้นดาดฟ้า หนึ่งในทีมงานแจ้งว่า มีคนทำงานศิลปะแตก เมื่อลงมาดูพบว่า เป็นงานศิลปะจัดวาง ของศิลปินรุ่นใหม่ ที่เพิ่งรับรางวัลศิลปกรรมรุ่นเยาว์ ระหว่างนั้น เจ้าของผลงานกำลังให้สัมภาษณ์บนเวทีเสวนาอยู่
เมื่อตั้งสติได้ จึงรีบถามหาสาเหตุ พบว่าเป็นเด็กคนหนึ่งที่คิดว่า งานศิลปะเป็นล้อรถ เลยวิ่งมาผลักเล่น โดยแม่กล่าวว่า “ขอโทษด้วย ลูกคิดว่าเป็นล้อรถ น้องเขาดื้อไปหน่อย พ่อเขาจับไม่ทัน” ผู้จัดงานศิลปะจึงแก้ปัญหาด้วยการขอเบอร์โทรติดต่อแม่ แล้วบอกว่า ขอคุยกับศิลปินเจ้าของผลงานก่อนว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป เสร็จพิธีเปิดงานแล้วค่อยคุยกัน ก่อนที่จะรีบขึ้นไปดูแลพิธีเปิดงานต่อ
เมื่อพิธีเปิดงานจบ เจ้าของผลงานกำลังพาประธานในพิธี อาจารย์ และเพื่อนๆ ลงไปชมผลงานนิทรรศการ เมื่อทราบว่าผลงานตัวเองเสียหายถึงกับหน้าถอดสี ตัวสั่น พูดติดขัด บอกว่า “ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไรครับพี่” แต่ผู้จัดงานศิลปะพยายามแก้ไขเหตุการณ์ตรงหน้า บอกว่า “เดี๋ยวค่อบคุยกับคนทำงานแตกนะ” ก่อนที่เจ้าของผลงานจะเก็บให้เข้าที่เข้าทาง แขกในงาน ประธาน อาจารย์ เพื่อนๆ ก็มาให้กำลังใจว่าเป็นอุบัติเหตุ
เมื่อผู้จัดงานศิลปะรายนั้นโทรศัพท์หาแม่เด็กให้เข้ามาเจรจา จึงมีการพบกันสามฝ่าย แต่พบว่าฝ่ายแม่เด็กมีท่าทีนิ่งเฉย ไม่พูดไม่จาหลายนาที ผู้จัดงานศิลปะจึงตัดสินใจพูดก่อน เสนอว่า ควรชดใช้ค่าเสียหายเท่ากับราคาที่เจ้าของผลงานติดไว้ ศิลปิน ตัวสั่น แล้วพยายามยิ้มให้แม่ บอกว่า “ผมไม่เป็นไร เข้าใจครับ ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ” ขณะที่แม่ของเด็กกลับกล่าวขอโทษ แล้วบอกว่า “น้องเขายังเด็ก ขอชดใช้ครึ่งราคา”
ผู้จัดงานศิลปะผู้โพสต์เล่าว่า ตลอดเวลาที่ทำงานนี้ จะยึดหลักการเสมอว่า เขาไว้ใจให้เราทำงานนี้ ต้องทำให้ดีที่สุด ศิลปินไว้ใจให้เราเอาผลงานมาแสดง เราต้องดูแลงานเขาให้ดีที่สุด ดังนั้นจะละเอียดอ่อนกับเรื่องนี้มาก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่ทุกครั้งที่เกิด ก็จะจบลงด้วยสิ่งที่คาใจเสมอ ถ้าคนๆ หนึ่งเห็นคุณค่างานศิลปะ เหมือนหรือคล้ายที่ให้ค่ารถหรู โดนขูดเป็นรอย กระเป๋าใบงามโดนน้ำเสียหาย นาฬิการาคาแพงเป็นหน้าปัดแตก การเจรจาจะไม่ลงเอยแบบนี้ และไม่น่าลดคุณค่าในสิ่งที่ไม่เห็นค่า
นอกจากนี้ ยังแนะนำว่าถ้าเด็กดื้อ ขอให้จับมือหน่อย เราติดป้ายชัดเจน เด็กไม่อ่านแต่ผู้ปกครองควรอ่าน แล้วบอกกล่าวดูแลกันนิดหนึ่ง ท้ายสุดแล้ว สิ่งที่บอกเสมอ คือ การจัดการงานนิทรรศการศิลปะว่ายากแล้ว การสร้างวัฒนธรรมการชมงานศิลปะยากยิ่งกว่า แต่ไม่ว่าจะยากอย่างไร เราก็ต้องทำ ขอความร่วมมือด้วย
โพสต์ดังกล่าวมีคนแชร์กว่า 2.9 พันครั้ง และพากันประณามว่า พ่อแม่สมัยนี้ไม่ค่อยดูแลเด็ก ทั้งที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยในจุดที่เป็นของเปราะบาง อีกทั้งควรรับผิดชอบในราคาเต็ม ข้ออ้างที่ว่าน้องเขาเป็นเด็ก ขอจ่ายครึ่งราคานั้นฟังไม่ขึ้น เพราะผู้ปกครองต้องรับผิดชอบทุกการกระทำของลูกอยู่แล้ว งานศิลปะสร้างด้วยความคิดสร้างสรรค์ ไม่ใช่ปั้นจากโรงงาน พร้อมกับให้กำลังใจผู้จัดงานรวมทั้งศิลปินอีกด้วย