ปมขัดแย้งเรื่องการค้า ส่งผล ลูกจ้างเตรียมรับมือ ปีหน้าเสี่ยงเลิกจ้างอื้อ
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์กรนายจ้างผู้ประกอบการค้าอุตสาหกรรม
ไทย ได้ออกมาเปิดเผยว่า ผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่งผลให้เศรษฐกิจ
โลกชะลอตัว จะเห็นได้จากการส่งออกของไทยก็ได้รับผลกระทบไปด้วย โดยมียอดติดลบ 1.5 ลบ 2 เปอร์เซ็น
ซึ่งนายธนิต โสรัตน์ ยังเปิดเผยอีกว่า จากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่งผลให้
เศรษฐกิจโลกชะลอตัว จะเห็นได้จากการส่งออกของไทยก็ได้รับผลกระทบไปด้วย โดยมียอดติดลบ 1.5 ลบ
2 เปอร์เซ็นจากปัจจัยดังกล่าว กระทบถึงการจ้างงานที่เริ่มชะลอตัว ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เริ่มทยอยลดกำลัง
การผลิตลง
ส่งผลให้ปีหน้ามีความเสี่ยงด้านแรงงานมากขึ้น โดยปีหน้าจะมีแรงงานเข้าระบบถึง 520,000 คน ในเดือน
เมษายน 2563 ซึ่งต้องเผชิญหน้ากับภาวะว่างงาน โดยเฉพาะในภาคการส่งออก ภาคการผลิต การบริการค้า
ปลีกและค้าส่ง นอกจากนี้หลายอุตสาหกรรมได้ปรับระบบการผลิตเข้าสู่เทคโนโลยีชั้นสูงเช่น หุ่นยนต์ ปัญญา
ประดิษฐ์ (AI) ยิ่งส่งผลให้การจ้างงานลดลง
ผลกระทบที่เริ่มเห็นสัญญาณคือ การทยอยปิดโรงงานและเลิกจ้างงานเมื่อเดือน ก.ย.โดยเฉพาะโรงงานใน
นิคมอุตสาหกรรม จังหวัดสมุทรสาคร ต่อจากนี้ก็จะมีโรงงานทยอยปิดมากขึ้น ตัวอย่างเช่น โรงงานเพื่อการ
ส่งออก
ซึ่งส่วนมากจะเป็นโรงงานในจังหวัดสมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง สมุทรสาคร โรงงานเหล่านี้จะเริ่มใช้มาตร
การต่างๆ เพื่อแก้ปัญหา เช่น ลดเวลาทำงาน ไม่จ้างเอาต์ซอร์ซ ไม่รับพนักงานใหม่ในตำแหน่งที่ว่างลง จน
กระทั่งถึงการจ้างให้ออก
ในทั้งนี้เป็นเรื่องที่ลูกจ้างทุกคนควรที่จะรู้และเตรียมตัว ถ้าหากรู้ว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยง โรงงานเสี่ยงที่จะ
เลิกจ้าง ปิดโรงงาน ถ้าหากเกิดเลิกจ้างขึ้นมาจะได้มีรับมือทัน