จากกรณีนายวิสุทธิ์ พันเพ็ง อายุ 44 ปี ชาวบ้านชัยอุดม ต.เมืองเดช อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ทำปืนลั่นใส่ลูกชายเสียชีวิตที่ถนนกลางหมู่บ้าน เมื่อกลางคืนวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา และเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ภัทรพล โพธิอะผกก.สภ.เดชอุดม อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี เมื่อเช้าวันที่ 3 พ.ย.นั้น
ความคืบหน้า น.ส.รัตนาวดี แผ่นคำลา อายุ 44 ปี ผู้เป็นแม่ และญาติพี่น้องได้นำศพนายปริวัตร หรือ น้องฟลุ๊กแผ่นคำลา อายุ17 ปี ตั้งบำเพ็ญกุศลภายในบ้านพักของนายวิสุทธิ์ พันธ์เพ็ง ผู้เป็นพ่อ และจะทำการฌาปนกิจในวันพุธที่ 6 พ.ย.นี้ ที่วัดศิริสาระคุณ ต.เมืองเดช อ.เดชอุดม
สำหรับเหตุการณ์วันดังกล่าว น.ส.รัตนาวดี เล่าว่า ลูกชายที่ไปรับจัดดอกไม้ให้ร้านในตัวเมืองเดชอุดม และไปเห็นรถยนต์กระบะของบิดาจอดอยู่ที่ร้านคาราโอเกะที่ผู้เป็นพ่อไปติดพันสาวในร้าน จึงโทรศัพท์บอกให้แม่ทราบ ทำให้น.ส.รัตนาวดี ชวนญาติขี่รถจักรยานยนต์ตามไปทะเลาะกับสามีที่หน้าร้าน และมีการลงมือตบตีกัน ก่อนชวนกันกลับมาเคลียร์ที่บ้านอีกครั้ง
น.ส.รัตนาวดี ได้กลับมารอที่บ้าน แต่นายวิสุทธิ์ ไม่ได้ตามกลับมา ได้แวะไปที่บ้านของพี่ชายที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันที่เป็นจุดเกิดเหตุ น.ส.รัตนาวดี จึงขี่รถจักรยานยนต์มาหาสามีและมีปากเสียงกันอีกครั้ง ที่หน้าบ้านพี่ชาย ระหว่างนั้นนายปริวัตร หรือ น้องฟลุ๊กให้เพื่อนนักเรียนช่วยขับรถพามาดูแม่ เพราะเกรงพ่อจะทำร้ายแม่ ระหว่างน้องฟลุ๊กมาถึงและยืนที่ฝั่งซ้ายมือของ น.ส.รัตนาวดี นายวิสุทธิ์ได้ล้วงปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 ออกมาจากกระเป๋าเหมือนต้องการขู่ตน
แต่กระสุนปืนเกิดลั่นขึ้น 1 นัด กระสุนเจาะเข้าบริเวณขมับซ้ายทะลุออกกะโหลกด้านบนของน้องฟลุ๊ก เมื่อนายวิสุทธิเห็นบุตรชายล้มลง ก็ทิ้งปืนวิ่งเข้ามากอดร่างเอามือเช็คเลือด พร้อมกับร่ำไห้ออกมาก่อนรีบนำตัวน้องฟลุ๊ก ส่งโรงพยาบาลประจำอำเภอและถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลประจำจังหวัด แต่กระสุนถูกที่สำคัญ ทำให้น้องฟลุ๊ก เสียชีวิตในเวลาต่อมา
“ถ้าจะให้บอกว่านายวิสุทธิ์ เจตนาจะยิงลูกเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นคนที่รักลูกทั้ง 3 คนมาก ลูกอยากได้อะไรก็จะหามาให้หมด โดยเฉพาะน้องฟลุ๊ก จะกอดจะหอมพ่อแม่อยู่ตลอดเวลา โดยก่อนหน้านายวิสุทธิ์ ก็ได้ซื้อทองหนัก 2 สลึงรับขวัญแก่น้องฟลุ๊กที่สมัครไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี หลังพี่คนโตได้เรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้มาเป็นคนแรก”
น.ส.รัตนาวดี ระบุถึงสาเหตุสำคัญคือ นายวิสุทธิ์ชอบดื่มเหล้าและเอาเงินที่หามาได้จากการวิ่งรถรับจ้างไปให้ผู้หญิงตามร้านขายเหล้า แต่ก็ไม่เคยมาเอาเงินจากบ้านไปเลี้ยงผู้หญิงและวันเกิดเหตุนายวิสุทธิ์ มีอาการเมาสุราค่อนข้างมาก จึงอยากฝากให้เป็นอุทาหรณ์ไม่ควรดื่มเหล้าส่วนปืนก็ไม่ทราบว่านายวิสุทธิ์เอามาจากไหน
ด้านนางปุ้ย แสงแก้ว อายุ 82 ปี เพื่อนบ้านที่เคยเลี้ยงดูนายวิสุทธิ์ มาตั้งแต่เล็กเล่าว่า มือปืนเป็นคนที่รักลูกมาก แม้บางครั้งลูกอยากได้อะไร แต่ไม่มีเงินก็จะยืมญาติพี่น้องมาซื้อให้ก่อน จึงไม่เชื่อที่จะเอาปืนมายิง แต่อาจเป็นอุบัติเหตุเพราะความเมาสุรา ซึ่งตนก็เคยพูดว่ากล่าวตักเตือนหลายครั้ง แต่ก็ไม่ฟังจนเกิดเหตุไม่คาดฝันนี้ขึ้น
ส่วนนายอภิสิทธิ์ มาพรม อายุ 17 ปี เพื่อนนักเรียนของน้องฟลุ๊ก เล่าว่า ปกติคนตายเป็นคนเอื้อเฟื้อสนุกสนาน เป็นเด็กชอบทำกิจกรรมช่วยเหลือโรงเรียน และรักเพื่อนในกลุ่มมาก พร้อมฝากถึงผู้มีอาวุธไม่ควรนำไปใช้อย่างไม่ถูกวิธีเพราะทำให้เกิดเหตุเช่นเดียวกับน้องฟลุ๊กได้
ด้าน พ.ต.ท.วัฒนา โคลงชัย รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เดชอุดม กล่าวถึงความคืบหน้าของคดี เบื้องต้นผู้ต้องหาให้ญาติติดต่อเข้ามอบตัวในเช้าวันรุ่งขึ้น โดยให้การสารภาพไม่มีเจตนาจะทำร้ายหรือยิงลูก แต่ต้องการเอามาขู่เท่านั้นซึ่งก็ต้องดูจากผลการพิสูจน์หลักฐานประกอบการสอบสวนอีกครั้ง และขณะนี้ ได้แจ้งข้อหานายวิสุทธิ์ คือ ฆ่าผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย มีและพกพาอาวุธไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะได้นำตัวไปฝากขังกับศาลในสายวันเดียวกันนี้
ด้านนายวิสุทธิ์ ผู้เป็นพ่อ ปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะยังเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก Khaosod