พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีต หน.ชุดจับกุม สมคิด เมื่อปี 48 เผย เป็นคนฉลาดไม่ได้บ้า ลงมือไม่วางแผน แต่เป็นโรคจิตเภทแบบหนึ่ง ไม่ควรปล่อยออกมาอีกเพราะรักษาไม่ได้ เคยสารภาพได้กระทำเหยื่อจะมีความสุข
วันที่ 18 ธ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ในฐานะที่เคยทำคดีนายสมคิด พุ่มพวง ฆาตกรรมเหยื่อ 5 ราย เมื่อปี 2548 ว่า ขณะนั้นตนดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) พ.ต.อ.ปรีชา เจริญทรัพย์ ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ (ยศในขณะนั้น) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น โทรศัพท์มาบอกว่ามีเหตุฆาตกรรมในบุรีรัมย์ ซึ่งคล้ายกับเหตุในภาคอีสานอีก 1-2 ราย จึงอยากให้กองปราบฯ เข้าไปช่วยสืบสวนสอบสวน
ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้กำกับการกองปราบฯ ตรวจสอบคดีย้อนหลังแบบเดียวกัน 6 เดือน ที่มีการทำร้ายผู้หญิงในลักษณะบีบคอ รัดคอ หรือจับกดน้ำ และพบ 5 รายที่มุกดาหาร ลำปาง ตรัง อุดรธานี และบุรีรัมย์ การสืบสวนจับกุมใช้หลักการพื้นฐานกล้องวงจรปิด การติดต่อสื่อสาร และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยขณะนั้นสืบทราบว่านายสมคิด มีภรรยาอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ จึงตามไปจับกุมตัวไว้ได้ที่บ้านภรรยา
จากการสอบสวนในขณะนั้น นายสมคิด เป็นคนมีความฉลาดและมีความรู้ เป็นบุคคลมีลักษณะสร้างความสำคัญให้ตนเอง ขณะที่ติดคุกยังเขียนจดหมายส่งไปถึงภรรยาของญาติผู้ที่ถูกยิงตายในบ่อบำบัดน้ำเสียราชาเทวะ นายสมคิดยังมีความคิดที่ต่างจากบุคคลธรรมดา ถามว่าเขาจะมีปัญหาหนีไหม แต่ถึงเขามีปัญญาหนีตำรวจก็มีปัญญาตาม
“สมคิดไม่ได้บ้าหรือวิกลจริต ถ้าบ้าหรือวิกลจริตคือไม่รู้ตัวในขณะกระทำผิด แต่สมคิดเป็นโรคจิตเภท ที่ถ้าได้ไปกระทำหรือดำเนินการต่อเหยื่อแล้วทำให้เกิดความสุข ทำให้เกิดความปลดปล่อย การทำกับเหยื่อซ้ำ ทำกับผู้หญิงที่อ่อนแอกว่า เป็นโรคจิต เป็นจิตเภทอย่างหนึ่งทางเราเรียกว่าฆาตกรรมต่อเนื่อง”
พล.ต.อ.วินัย กล่าวอีกว่า การก่อเหตุของนายสมคิด พุ่มพวง ไม่ได้ถึงกับมีการวางแผนซับซ้อนแต่อย่างใด แต่พบว่ามีอาการเป็นโรคจิตเภท ไม่ได้มีอาการวิกลจริต ทุกครั้งที่นายสมคิดก่อเหตุมีสติเหมือนคนปกติ ดังนั้นเมื่อลักษณะอย่างนี้ จึงสามารถนำตัวมาดำเนินคดีได้ตามขั้นตอน ครั้งนี้เมื่อนายสมคิด ถูกจับกุมแล้ว ก็ไม่ควรถูกปล่อยให้ออกมาอยู่ในสังคมภายนอกอีก เพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาก่อเหตุกับคนอื่นอีก เท่าที่เคยสอบถามกับผู้เชี่ยวชาญทราบว่า โรคจิตเภทที่นายสมคิดป่วยนั้นไม่สามารถรักษาได้ และเมื่อครั้งที่ถูกจับกุมเมื่อปี 2548 เขาเคยพูดจับชุดจับกุมว่า มีความสุขทุกครั้งที่ได้บีบคอเหยื่อ
ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า ยืนยันจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว ตั้งแต่เกิดเหตุ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง เร่งติดตามจับกุมนายสมคิดมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งทราบว่า เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ชุดจับกุมสามารถควบคุมตัวนายสมคิดได้ ขณะเดินทางโดยรถไฟ ที่สถานีปากช่อง จ.นครราชสีมา ขณะนั่งรถไฟจากบุรีรัมย์ มุ่งหน้าเข้าพระนครศรีอยุธยา แม้นายสมคิด จะเป็นคนฉลาด แต่ไม่เกินความสามารถของตำรวจ
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังเป็นหนึ่งในชุดคลี่คลายคดีนายสมคิด เมื่อปี 2548 ในสมัยยังเป็น รอง ผบก.ป.