เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เป็นอีกหนึ่งภาพเหตุการณ์หลังจากเหตุการณ์ ที่คนร้ายใช้อาวุธปืนสงคราม กราดยิงผู้บริสุทธิ์ จนมีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 20 กว่าคนและบาดเจ็บหลายราย จากนั้นได้ใช้รถฮัมวี่ขับหลบหนีออกมา และเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 แล้วใช้อาวุธปืนกราดยิงประชาชนบริเวณดังกล่าวจนได้รับเจ็บอีกเพียบ ในจำนวนนี้มีตำรวจเสียชีวิตด้วย

ล่าสุด ในโลกสังคมออนไลน์มีการพูดถึง ร.ต.อ.ชานันท์ ชัยจินดา สารวัตร กองกำกับการ 3 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ ตชด. หรือในฐานะลูกชายคนโตของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. อย่างกว้างขวาง

ยึดโรงงานแปรรูปไม้ จระเข้กว่า 1,000 ตัว บนที่ดิน “ทวี ไกรคุปต์”
จีนพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรน่า รายที่ 4 ผวาหนัก ติดต่อได้จากคนสู่คน
ประชาชนมีความสุข ตำรวจจับโจรปล้นทอง “จักรทิพย์” ปลื้มคนเชื่อมั่นมากขึ้น

มาไล่เรียงประวัติของสารวัตรป้ายแดง ร.ต.อ.ชานันท์ ชัยจินดา ลูกชาย “บิ๊กแป๊ะ” ผบ.ตร.ฝีมือดี เขามีเส้นทางชีวิตอย่างไร ถึงได้พลิกผันมาเป็นตำรวจอาชีพ

นอกเสียจาก ร.ต.อ.ชานันท์ ชัยจินดา (ฮัท) จะเป็นลูกชายของบิ๊กตำรวจ เขายังเป็นลูกชายของ ดร.บุษบา ชัยจินดา เจ้าของมหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้คร่ำหวอดในวงการการศึกษา จึงไม่แปลกที่เส้นทางการศึกษาของ ด.ช.ฮัท จะได้รับการเรียนการสอนอย่างดีเยี่ยม ตามแบบฉบับของหนุ่มไฮโซโปรไฟล์ดี

– ระดับชั้นประถมศึกษาเรียนที่โรงเรียนวชิราวุธ

– ระดับชั้นมัธยมศึกษา เข้าโครงการแลกเปลี่ยนไปเรียนต่อประเทศนิวซีแลนด์

– ระดับปริญญาโท บริหารต่างประเทศ มหาวิทยาลัยบอร์นมัธ ประเทศอังกฤษ

– ระดับปริญญาตรี คณะเทคโนโลยีการจัดการ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติ สิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ภาพในอดีต ก่อนที่จะเข้ารับราชการ

เส้นทางสู่ตำรวจอาชีพ

เมื่อเดินทางกลับมายังประเทศไทย หลังจากเรียนจบจากต่างประเทศ ร.ต.ต.ชานันท์ ชัยจินดา เคยให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อตอนยังเป็นเด็กผมเคยมีความคิดอยากเป็นตำรวจเหมือนคุณพ่อ ผมมีความภาคภูมิใจในตัวคุณพ่ออย่างมาก แต่มีช่วงที่ความคิดเปลี่ยนตอนไปเรียนต่างประเทศด้านบริหาร ช่วงนั้นไปเรียน และใช้ชีวิตอิสระ จึงไม่ได้คิดถึงการเป็นตำรวจ จนได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้งตอนเรียนปริญญาโทสำเร็จแล้ว คุณพ่อก็ได้ถามว่า

“อยากเป็นตำรวจไหม?” ซึ่งผมก็ตอบโดยไม่ลังเลว่า “ผมอยากเป็น”

ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า “แม่เขาอยากให้ฮัททำงานที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมมากกว่า แต่ผมขอให้เขาเป็นตำรวจ เพราะอยากฝึกลูกให้เป็นคนมีวินัย และผมอยากให้เขาพึ่งตัวเองได้หลังจากผมกับภรรยาไม่อยู่แล้ว ดังนั้นลูกผมจะต้องอยู่ในที่ที่ลำบากสุดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นั่นก็คือ ตำรวจตระเวนชายแดน”

จากนั้น ร.ต.ต.ชานันท์ จึงเข้าอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนเข้ามาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร รุ่น 37 ในปี 2559 และเข้ารับการฝึกอย่างหนักหลายต่อหลักสูตร ดังต่อไปนี้

หลักสูตรการเก็บกู้วัตถุระเบิด

หลักสูตรต่อต้านการก่อการร้าย นเรศวร 261

หลักสูตรกระโดดร่มสายกระตุกคงที

หลักสูตรกระโดดร่มแบบกระตุกเอง

หลักสูตรสืบสวนหลังเกิดเหตุระเบิดจาก ILEA

หลักสูตรตำรวจตระเวนชายแดน ระดับผู้บังคับหมวด ตชด.

หลักสูตรอาจารย์ผู้สอนอาวุธปืนระบบ MCX, MPX, P320, DMR

หลักสูตรพลซุ่มยิงจากศูนย์ฝึก sig sauer academy จาก สหรัฐอเมริกา

ฝึกร่วมกับหน่วย The Australia Federal Police Specialist Response Group ที่ ออสเตรเลีย

ฝึกร่วมกับหน่วย RAID Unit (France)ที่ ฝรั่งเศส

ฝึกร่วมกับหน่วย 2nd Commando Regiment ที่ ออสเตรเลีย 3 ครั้ง

หลักสูตรสืบสวนหลังเหตุระเบิด ที่ สหรัฐอเมริกา

หลักสูตร FBI National Academy 2019 จาก สหรัฐอเมริกา

หลักสูตร IMI Academy Sniper course 2019 จาก อิสราเอล

เข้าร่วมการแข่งขันหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ที่ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

เขาเผยว่าตอนฝึกอยู่ที่ค่าย ใช้ชีวิตระหว่างการฝึกเหมือนกับทุกคน ไม่มีแบ่งแยกว่าเขาเป็นลูกใคร กินเนื้อดิบ จับปลา ใช้ชีวิตติดดิน และเขายังบอกอีกว่า “ทุกวันนี้ ผมก็เป็นตำรวจธรรมดา ไม่มีสิทธิพิเศษอะไร เหมือนกับทุกคน พ่อไม่ได้ช่วยผลักดันอะไร ผมอยู่แบบนี้ ผมสบายใจกว่า”

ครั้งหนึ่ง เพื่อนร่วมหลักสูตรการฝึกของ ร.ต.อ.ฮัท ได้บอกเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า “ในระหว่างการฝึก บ่อยครั้งที่นักเรียนทำผิด และครูฝึกจะต้องมีการลงโทษนักเรียน ซึ่งฮัทก็เป็นหนึ่งในนักเรียน แต่ครูฝึกทุกคนไม่กล้าลงโทษเขา เพราะยำเกรงในบารมีของพ่อ แต่ฮัทกลับเดินไปบอกว่า ลงโทษผมเถอะครับ ถ้าครูไม่ลงโทษผม ผมจะลาออก”

 

“จนวันเวลาผ่านไป คนรอบตัวของฮัท ไม่ว่าจะเป็นผู้บังคับบัญชา เพื่อนในหน่วย หรือผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ได้โฟกัสที่เขาเป็นลูกใครอีกต่อไปแล้ว เพราะเขาใช้ชีวิตธรรมดา ติดดิน เหมือนลูกชาวบ้านคนหนึ่ง จนทุกคนหลงลืมว่าเขามาจากที่ไหน”

ที่มา – Thairath