วันที่ 1 เม.ย. โลกโซเชียลมีการแชร์เหตุการร์ ผู้ป่วยมีอาการทางจิตออกอาละวาด เที่ยวก่อเหตุกับผู้คนทั้งกระชากสร้อย ใช้มีดจี้ หวั่นเกิดอันตราย โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ อัญชรินทร์ เทวกุล ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า “อยากขอให้ทุกคนช่วยแชร์ด้วยคะ ไม่รู้ว่าต้องเกิดเหตุรุนแรงแค่ไหนเจ้าหน้าที่ถึงจะช่วยประชาชนได้ ใครพอมีทางหรือแนวทางรบกวน
“จากคำบอกเล่าของสายตรวจ” สายตรวจเพียงแค่ไปบอกกล่าวผู้เป็นแม่ว่าลูกชายได้ไปก่อเหตุไว้นะ ทางดิฉั้นก็เลยเดินทางไปสถานีตำรวจ เพื่อแจ้งความ หวังว่าจะมีขั้นตอนในการดำเนินการกับผู้ดูแลชายก่อเหตุ ไม่ให้ปล่อยมาเพ่นพ่าน ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าทำได้เพียงแค่ลงบันทึกประจำวัน (ร้องไห้หนักมาก)
“นึกถึงข่าวเด็กหญิง5ขวบที่นครปฐมขึ้นมาทันที” แบบนี้ นี่เองที่ทำให้มีการก่อเหตุสลดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ok ค่ะคุณตำรวจ ถ้าทำได้เพียงแค่ลงบันทึกประจำวันก็คงต้องตามนั้น หลังจากลงบันทึกประจำวันเสร็จดิฉั้นก็ตั้งใจจะเดินทางมาที่บ้านชายก่อเหตุเพื่อนำใบที่ลงบันทึกและวิดิโอเหตุการมาบอกว่า อย่าปล่อยลูกชายตัวเองไปทำอันตรายกับคนอื่นอีก ถ้าในตอนนั้น ดิฉั้นไม่สามารถเจรจากับชายเสียสติได้ ดิฉั้นคงพิการหรืออาจจะถึงแกชีวิต แต่พอมาถึงบ้านหลังดังกล่าว ก็ไม่เจอแม่และชายคนก่อเหตุแล้ว จึงเดินไปพูดคุยกับชาวบ้านและวินมอเตอร์ไซระแวกบ้านชายเสียสติ ซ.เทอดไท91.
ยิ่งเป็นที่น่าตกใจ พี่มอเตอร์ไซค์วินคนนึงได้เล่าให้ฟังว่า นายคนนี้ชื่อนายโอ มีนิสัยชอบเสพยา และมีพี่ชายคนนึงไม่ทราบชื่อชอบดมสารระเหย ทั้งพี่และน้องชาย มีใบแดงที่เข้ารับการบำบัดจิตทั้งคู่ ชาย2คนนี้ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่กับบิดาและมารดา ไม่นานมานี้บิดาเสียชีวิต เหลือแม่ที่ดูแล ก็ปล่อยประละเลย เมื่อ4-5วันก่อน นายโอผู้ที่ก่อเหตุกับดิฉั้น ก็กระชากสร้อยคนที่เดินทางสัญจรในซอยนั้น ซ.เทอดไท91 และก่อนหน้านี้ ก็เดินเอามีดไปจี้หลังหญิงสาวคนนึงที่กำลังเดินออกมาจาก ซ.เทอดไท91 จนทำให้หญิงสาวคนดังกล่าววิ่งไปหลบในจุดที่วินมอเตอร์ไซค์จอด
คนบ้ามีกฏหมายคุ้มครอง
ผู้โพสต์ระบุต่อว่า ดิฉันกราบขอความกรุณาหรือช่วยแนะนำหน่วยงานที่พอจะช่วยเหลือได้ เข้ามาให้ความช่วยเหลือ ดิฉั้นกลัวและหวาดผวามาก เพราะก่อนหน้านี้ ดิฉันได้โทรไปขอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลศรีธัญญาว่าสามารถช่วยเหลือนำผู้ป่วยไปบำบัดได้มั้ย ทางโรงพยาบาลแจ้งว่า ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไป หรือทางมารดาของผู้ป่วยนำตัวส่ง
ทางเราไม่สามารถไปนำตัวผู้ป่วยมารักษาได้ ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกได้เพียงว่าคุณไม่ได้รับบาดเจ็บและอีกอย่างทางผู้ก่อเหตุเป็นชายเสียสติเค้ามีกฎหมายคุ้มครองอยู่ สรุปคือรอความตาย สุดท้ายนี้ ขอฝากไว้ว่าที่ไม่ตัดสินใจไปเจรจากับมารดาของนายโอผู้ก่อเหตุก็เพราะว่ามารดาของนายคนนี้ก็มีอาการทางจิตเช่นเดียวกัน
Cr. ข่าวสด