เว็บไซต์มิเรอร์ รายงานว่า ศาลเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ได้ทำการไต่สวนคดีความรุนแรงที่เกิดขึ้น เมื่อ นิโคลัส จอห์น คริลลีย์ ผู้ต้องหาวัย 34 ปี ได้ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศและทารุณกรรมเหยื่อสาวอย่างต่อเนื่อง 23 วัน จนทำให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสและทิ้งบาดแผลไว้ทั้งกายใจ จนชีวิตของเธอไม่อาจเหมือนเดิมอีกต่อไป ซึ่งจากความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทำให้คริลลีย์อาจได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต รายงานเผยว่า คริลลีย์ ได้ยอมรับสารภาพในความผิด 54 กระทง ซึ่งรวมถึง ข้อหาทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ลิดรอนเสรีภาพ ทารุณกรรม ในเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 ที่บ้านของผู้ต้องหาในเมืองบริสเบน
ระหว่างการไต่สวน ได้มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดอันน่าสะพรึงของคดี โดยเหยื่อสาวซึ่งอายุ 21 ปีในขณะนั้น ถูกผู้ต้องหากระทำการทารุณสารพัด ทั้งทุบตีทำร้ายร่างกาย จุดไฟเผาตามตัว ราดน้ำร้อนใส่อวัยวะเพศ รวมถึงใช้สารเคมีทำให้เกิดรอยไหม้ทั่วร่างกายของเหยื่อ เขายังใช้กำลังข่มขืนเธอทุกวัน โดยคาดว่าผู้ต้องหามีความซาดิสม์ กระทำการรุนแรงต่อเหยื่อเพื่อเป็นการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของตัวเอง นอกจากนี้ คริลลีย์ยังบังคับให้เหยื่อกินอุจจาระของตัวเอง แถมยังสั่งให้เธอเลือกวิธีตายมา ซึ่งจากสารพัดความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทำให้เหยื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกหักหลายจุด มีแผลลึกบนใบหน้า หนังหลุดออกมา และยังมีแผลถูกเผาไหม้ถึง 46% ของร่างกาย
เหยื่อสาวได้รับความทรมานต่อเนื่องนาน 23 วัน จนในที่สุด คริลลีย์ก็เป็นฝ่ายโทร. เรียกหน่วยฉุกเฉินมาที่บ้าน ก่อนที่ตัวเขาจะหลบหนีไป ซึ่งในตอนแรกที่แพทย์พบเหยื่อ พวกเขาคิดว่าเธอตายไปแล้วด้วยซ้ำ แต่เคราะห์ดีที่เธอยังมีลมหายใจ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยพบว่าเหยื่ออยู่ในภาวะโคม่า ต้องอยู่ในห้องไอซียูนานหลายวัน
ทั้งนี้ คริลลีย์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวได้ 8 วันหลังจากนั้น หลังการไล่สืบรถที่ถูกขโมยไป และเขาก็ได้เข้าสู่กระบวนการไต่สวนของชั้นศาลในเวลาต่อมา ด้านอัยการ ซานดรา คูปานา กล่าวในชั้นศาลว่า เนื้อเยื่อบนหน้าของเหยื่อสาวติดเชื้ออย่างรุนแรง และมีหนอนขึ้น หากเธอไม่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลก็อาจจะตายไปแล้ว เธอได้รับความโหดร้ายรุนแรงตลอด 23 วัน และเมื่อเห็นเธอบาดเจ็บ ผู้ต้องหาก็จะหาวิธีมาทารุณเธอหนักขึ้น การทารุณกรรมทางเพศที่ต้องเผชิญ ทำให้เหยื่อมีเลือดออกภายใน แถมต่อมาเธอยังได้รู้ความจริงสุดเลวร้าย ว่าตัวเองตั้งครรภ์จากเหตุที่เกิดขึ้น
ข้อมูลจาก 7news.com.au เผยว่า เหยื่อสาวต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลนานถึง 8 สัปดาห์ ต้องเรียนรู้วิธีเดินและพูดใหม่อีกครั้ง แถมยังคงหลงเหลือรอยไหม้จากสารเคมีตั้งแต่หัวจรดเท้า เหยื่อสาวยังได้เข้าร่วมการไต่สวนคดีในวันที่ 21 เมษายน 2563 โดยเธอกล่าวในชั้นศาลว่า เธอได้รับความเสียหายทั้งร่างกายและจิตใจ ตอนนี้ผู้คนล้วนมองเธอเป็นสัตว์ประหลาด เพราะสภาพบาดแผลที่เกิดขึ้น ไม่ว่าครั้งใดที่เธอออกจากบ้านก็มักจะถูกจับจ้อง บาดแผลที่เกิดขึ้นยังคงน่ากลัว เห็นได้ชัด และไม่อาจย้อนกลับไปเป็นเหมือนเดิม
“หน้าของฉันไม่มีวันเหมือนเดิม ฉันถูกตอกย้ำทุกครั้งที่ส่องกระจก และฉันก็ไม่กล้ามีปฏิสัมพันธ์กับใครอีก” เหยื่อสาวกล่าว และชี้ว่านับจากวันนั้น ก็ไม่มีใครกล้าเป็นเพื่อนกับเธออีก ไม่มีใครกล้าจ้างเธอทำงานด้วยซ้ำ ด้านทนายความฝ่ายจำเลย อ้างว่าลูกความของเขาอยู่ในภาวะหลงผิด จากการใช้เมทแอมเฟตามีน จึงได้ก่อเหตุรุนแรงต่อเนื่องกับเหยื่อ ทั้งนี้ คดีดังกล่าวมีกำหนดพิพากษาโทษในวันที่ 1 พฤษภาคม นี้ ซึ่งทางศาลเมืองบริสเบน คาดว่าจำเลยจะได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต จากเหตุน่าสะพรึงที่เขาก่อ