เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

กรณี นส.ขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี พนักงานราชการ สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถูกแจ้ง ดำเนินคดีเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.63 หลังจากนำเงินบประมาณของทางราชการ 39.2 ล้านบาท จากการโอนเงินผ่านระบบการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ GFMIS โอนเข้าบัญชีส่วนตัว และพบการกระทำความผิดในการทำข้อมูลหลักฐานเท็จจากการปลอมเช็ครวม 166 ครั้ง ขณะนี้ถูกควบคุมตัวจากการฝากขังผัดที่ 3 ในเรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์

ศาลจัหวัดประจวบคีรีขันธ์ อนุมัติให้ออกหมายจับนางสายพิณ ดิบดีคุ้ม อายุ 56 ปื อยู่บ้านเลขที่ 221 หมู่ 8 ต.คลองวาฬ อ.เมือง มารดาของ น สขนิษฐา ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงฯ จากนั้นตำรวจชุดสืบสวนพร้อมหมายจับ เดินทางไปจับกุมตัวที่บ้านพัก

ขณะที่นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า กรณีการทุจริตอยู่ระหว่างการสอบข้อเท็จจริงในระดับจังหวัด  คาคว่าจะสรุปผลได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ สำหรับสาเหตุมีการรายงานผลการสอบสวนล่าช้า หลังพบการทุจริตตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.63 เนื่องจากจะต้องขอให้ผู้เชี่ยวชาญในการใช้ระบบเทคโโลยีด้านสารสนเทศ จากส่วนกลางร่วมสอบสวน และให้ข้อมูล

หลังจากได้ผลสรุปจากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว จะมีการแต่งตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย และทางละเมิดกับหัวหน้าสำนักงานจังหวัด หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ หัวหน้างานการเงิน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการลงนามเบิกจ่ายทุกราย

ขณะที่ตำรวจเผยความคืบหน้าทางคดี ว่า ขณะนี้ ป.ป.ช จังหวัดได้ส่งสำนวนกลับให้พนักงานสอบสวนดำเนินการหาคดีอญา จากนั้นทีมพนักงานสอบสวนได้ประชุมเพื่อสรุปแนวทางส่งให้ ปปป. ปปง. และ ปอท. ที่มีความชี่ยวชาญในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยพบว่า มียอดเงินที่ทุจริต มากกว่า 40 ล้านบาท

สำหรับลายมือชื่อของข้าราชการ 4 ราย ในสำนักงานจังหวัดที่ปรากฎในใบเช็ดงบประมาณจังหวัด 78 ใบ ได้ส่งให้สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตรวจว่า เป็นการลงลายมือชื่อจริงหรือมีการปลอมแปลง

โดยขออนุมัติศาล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ออกหมายจับข้าราชการระดับสูงที่มีส่วนเกี่ยวข้องบางรายที่มีเจตนาร่วมทุจริตในคดีอาญา จากการมอบรหัสผ่านและสมาร์ทการ์ดให้พนักงานราชการกระทำการทุจริต และเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายไม่เชื่อว่าเช็คจำนวนมาก จะมีการลงลายซื่อปลอมทั้งหมดเพื่อนำไปเบิกจ่ายกับธนาคารกรุงไทย สาขาประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีระบบการตรวจสอบที่เข้มงวด