เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันหยุด วันสุดท้ายของเทศกาลปีใหม่ ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างทยอยเดินทางกลับจากต่างจังหวัด ทำให้บรรยากาศทั้งที่สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ และสนามบินทั่วประเทศ แน่นขนัดไปด้วยผู้คน ขณะที่บนถนนสายหลักสายรองที่คับคั่งไปด้วยรถยนต์ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ก็ยังมีปริมาณรถเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ เชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา กาฬสินธุ์ สุรินทร์ ตราด ฯลฯ โดยเฉพาะที่สุรินทร์ พบว่าประชาชนที่กลับบ้านต่างนำข้าวสาร ซึ่งเป็นข้าวหอมมะลิของจังหวัดสุรินทร์ กลับไปรับประทานและเป็นการประหยัด หลายคนบอกเมื่อกลับมาฉลองเทศกาลปีใหม่ในแต่ละครั้งก็จะนำกลับไปด้วยทุกครั้ง

ขณะที่สถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่แห่งที่ 3 มีประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวนมากเริ่มทยอยเข้ามาซื้อตั๋วเพื่อกลับภูมิลำเนา ด้าน นายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ได้สั่งการให้ผู้ประกอบการเตรียมพร้อมเพิ่มเที่ยวรถสำรองไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 โดยเฉพาะในเส้นทางสายเหนือ ซึ่งปกติมีเที่ยวรถให้บริการวันละ 100 เที่ยว เบื้องต้น ผู้ประกอบการได้เพิ่มจำนวนเที่ยวรถรองรับอีกเป็น วันละ 150 เที่ยว ส่วนเส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพฯ ปกติมีรถให้บริการวันละ 60 เที่ยว ได้มีการเพิ่มจำนวนเที่ยวรถรองรับอย่างน้อยอีกวันละ 30-40 เที่ยว รวมทั้งเน้นย้ำว่าจะต้องไม่มีผู้โดยสารตกค้างและต้องเดินทางถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่มีผู้โดยสารตกค้างอย่างแน่นอน

สายเหนือรถเยอะแล้ว

ขณะที่สภาพการจราจรบนถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง มีรถยนต์ของประชาชน และนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ตำรวจทางหลวงเชียงใหม่ได้ตั้งจุดบริการประชาชนง่วงไม่ขับ พร้อมทั้งได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ออกสำรวจ เส้นทางเสี่ยงตลอดเวลา

สำหรับบรรยากาศการจราจรบนถนนพหลโยธิน ขาล่อง ที่จ.ตาก มีปริมาณรถเริ่มหนาแน่น ตั้งแต่ช่วงเช้าปริมาณรถ 2,664 คัน ต่อชั่วโมง สามารถทำความเร็วได้ 83-98 ก.ม./ชั่วโมง

เจ้าหน้าที่ได้เปิดสัญญาณไฟจราจรแบบสัมพันธ์ เพื่อเร่งระบายรถขาล่องลดการสะสมคงค้างของรถ ตามแยกต่างๆ ในขณะที่ปริมาณรถที่หนาแน่น ทำให้เกิดอุบติเหตุ รถชนท้ายกัน ต่อเนื่องหลายคัน ช่วงก่อนถึง สี่แยกทางหลวงตากแต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ โดย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถออกจากพื้นผิวจราจร ไม่ให้กีดขวาง ให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันการจราจรติดขัด

เปิดสะพานเดชาติวงศ์ 1

ขณะที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่รถที่มาจากภาคเหนือจะมุ่งหน้าสู่ภาคกลาง ตั้งเช้าเริ่มมีรถหนาแน่นขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจราจรเปิดสะพานเดชาติวงศ์ 1 ให้รถวิ่งล่องเข้ากรุงเทพฯได้สะดวกขึ้น และ ตามจุดยูเทิร์นต่างๆได้ปิดให้รถวิ่งตรงได้อย่างเดียว ส่วนตามทางแยกต่างๆที่มีสัญญาณไฟจราจรก็ลดให้เหลือเพียง 2 สัญญาณคือตรงไปกรุงเทพฯและขึ้นเหนือเท่านั้น นอกจากนี้ยังใช้การควบคุมสัญญาณไฟด้วยมือเพื่อเปิดให้รถวิ่งขาล่องเข้ากรุงเทพฯได้มากที่สุด โดยจะมีรถวิ่งมารวมกันที่สี่แยกเดชาติวงศ์จำนวนมาก ส่วนที่สามแยกบึงบอระเพ็ดเจ้าหน้าที่ก็ปิดสัญญาณไฟให้รถวิ่งตรงเข้ากรุงเทพฯได้เท่านั้น ซึ่งสัญญาณไฟที่สี่แยกเดชาติวงศ์เปิดให้รถวิ่งตรงเข้ากรุงเทพฯยาวนานกว่าปกติ แต่ก็ยังไม่พอเพียงกับปริมาณรถ บางครั้งมีรถติดยาวรอสัญญาณไฟถึงสี่แยกพหลโยธิน และบางทีก็มีรถจอดรอสัญญาณไฟที่สี่แยกจิระ ประวัติ ติดยาวมาถึงสี่แยกเดชาติวงศ์ ซึ่งรถต่างๆก็ยังสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วที่ไม่มากนัก แต่สภาพการจราจรก็ยังสามารถลื่นไหลไปได้ด้วยดี คาดว่ายังมีปริมาณรถอีกจำนวนมากที่จะวิ่งเข้ากรุงเทพฯในวันนี้ทั้งวันยันค่ำ

โคราชติดยาว-เปิดช่องพิเศษ

ด้านสภาพการจราจรบริเวณสี่แยกโชคชัยจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นเส้นทางจากอีสานมุ่งสู่ภาคกลาง ที่ถนนสาย 24 สีคิ้ว-เดชอุดมตั้งแต่ช่วงเช้า มีปริมาณรถมาจากเขตจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ จนติดสะสมยาวกว่า 5 กิโลเมตรเจ้าหน้าที่เปิดช่องทางพิเศษช่วงสี่แยก 3 ช่องทาง โดยพบว่าปีนี้รถมากกว่า ทุกปี แต่สามารถระบายรถได้ดีกว่า นาย จักรกฤษณ์ บุญเรืองศรี ผอ.แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 3 กล่าวถึงปัญหาการจราจร ปีนี้ว่า ไม่สามารถห้ามหรือควบคุมรถบรรทุกขนาดใหญ่ได้ ตรงนี้จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การจราจรมีรถติดสะสมยาว แต่คาดว่าจะสามารถระบายรถได้ดี สำหรับรถที่มุ่งหน้าไปจังหวัดชลบุรีหรือจังหวัดระยองจะแยกไปยังเส้นทางแยกจากถนนสาย 24 ออกไปทางเลียบถนนสายคลองชลประทานลำพระเพลิงตัดไปยังถนนสาย 304 ไปถนนเส้นกบินทร์บุรี ขณะที่บนถนนสาย 304 อ.วังน้ำเขียว มีรถมากและชะลอตัวเป็นบางช่วง โดยเฉพาะช่วงขาขึ้นเขา และบริเวณปั๊มน้ำมัน แต่ภาพรวมรถยังสามารถเคลื่อนตัวได้ตามปกติ ทั้งนี้ตำรวจจราจรได้เปิดช่องทางพิเศษบนถนนมิตรภาพจำนวนหลายจุดเพื่อเร่งระบายรถ ทำให้ยังสามารถเคลื่อนตัวได้ ส่วนการเกิดอุบัติเหตุมีเพียงที่อำเภอหนองบุญมากที่มีรถเสียหลักลงข้างทางเสียชีวิต 1 ราย