เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

รอง ผบช.ตม.เผยกรณีมีกระแสข่าว “เอมี่ ธิดาวานร” อดีตนางเอก หลบหนีไปต่างประเทศ ก่อนที่ศาลอุทธรณ์จะสั่งเพิ่มโทษจำคุก เป็นข้อมูลส่วนบุคคล แม้มีข้อมูลอยู่แล้วแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้

จากกรณี น.ส.อาเมเรีย หรือเอมี่ จาคอป อายุ 29 ปี นางเอกสาวลูกครึ่งไทย-เนเธอร์แลนด์ อดีตนางเอกละครธิดาวานร และอดีตมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2006 หลบหนีไปต่างประเทศ ก่อนที่ศาลอุทธรณ์จะสั่งเพิ่มโทษจำคุกตลอดชีวิต น.ส.อาเมเรีย ในคดีมียาเสพติดไว้เสพและขายนั้น

โดยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม หรือ ทนายอัจฉริยะ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม” ว่า ยังมีคนกล้าหลอกนักข่าวว่าเอมี่ อยู่เมืองไทย แล้วจะพาไปมอบตัวเพื่อต่อสู้คดี ทั้งที่เอมี่ เดินทางจากประเทศไทยไปดูไบ ตั้งแต่วันที่ 22 เดือนสิงหาคม ปี 2562 หลังจากนั้นก็ไม่เคยกลับมาเมืองไทยอีกเลย

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 21 ส.ค. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม.กล่าวว่า กระแสข่าวที่ระบุว่าเอมี่เดินทางออกนอกประเทศตั้งเเต่วันที่ 20 สิงหาคม ปี 2562 นั้น ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมีข้อมูลอยู่เเล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ ต้องมีหน่วยงานรัฐร้องขอหรือประสานเข้ามาตามขั้นตอน จึงจะสามารถตรวจสอบและให้ข้อมูลได้ เพราะข้อมูลส่วนนี้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถละเมิดได้

พล.ต.ต.ชูฉัตร กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเอมี่มีการออกนอกประเทศหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมา หากบุคคลใดตกเป็นผู้ต้องหา ตำรวจท้องที่จะต้องประสานไปยังกองการต่างประเทศ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และติดต่อไปยังประเทศปลายทางที่บุคคลนั้นเดินทางไป และดูว่ามีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ หากศาลมีคำพิพากษากับบุคคลใดแล้ว มักจะมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศด้วยนั้น ซึ่งข้อมูลนี้มีการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนนี้กับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอยู่แล้ว แต่ก็ต้องตรวจสอบว่า การขอเดินทางออกนอกประเทศของบุคคลนั้น เป็นไปตามเงื่อนไขหรือข้อยกเว้นใดหรือไม่

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อให้ความสนใจ ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ น.ส.อาเมเรีย หรือ เอมี่ จาคอป ในคดียาเสพติดว่า เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 61 ศาลจังหวัดมีนบุรี มีคำพิพากษายกฟ้อง น.ส.อาเมเรีย หรือ เอมี่ จาคอป ในข้อหา มียาเสพติดในครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ แต่ยังคงลงโทษในข้อหาเสพยาเสพติดฯ จำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท (ให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี) โดยมีเงื่อนไขให้คุมประพฤติรายงานตัวทุก 3 เดือน เป็นเวลา 1 ปี โดยให้ตรวจหาสารเสพติดทุกครั้งที่ไปรายงานตัว และให้บำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง ส่วนนายปุณยวัจน์  หิรัณย์เตชะ ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ปรับ 2,500,000 บาท แต่จำเลยรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 25 ปี 4 เดือน 15 วัน ปรับ 750,000 บาท

ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ศาลอาญามีนบุรี ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ลับหลัง ในคดีที่พนักงานอัยการคดียาเสพติด เป็นโจทก์ฟ้องในคดีดังกล่าว เนื่องจากนัดให้มาฟังคำพิพากษาแต่ไม่ยอมเดินทางมา โดยสั่งแก้โทษจำคุก น.ส.อาเมเรีย หรือ เอมี่ จาคอป เห็นว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตและปรับ 1 ล้านบาท คำให้การในชั้นสอบสวน และทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง นับว่ามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยไว้ 33 ปี 4 เดือน ปรับ 666,666.67 บาท

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า โดยเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ศาลอาญามีนบุรี ได้ออกหมายจับ น.ส.อาเมเรีย หรือ เอมี่ จาคอป ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายฯ” อายุความ 30 ปี ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานอย่างเป็นทางการ ก็จะดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป