เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ศาลจังหวัดเชียงใหม่พิพากษาประหารชีวิต 8 จำเลย ขบวนการลอบขนไอซ์ 500 กิโลกรัม ชี้ แม้จำเลยบางคนจะรับสารภาพ แต่เป็นขบวนการใหญ่ มีผลกระทบต่อสังคมและประเทศชาติ ให้คงประหารชีวิตสถานเดียว

วันที่ 28 ส.ค. พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เวลา 09.00 น. วันนี้ ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้พิพากษาคดีที่ขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบขนไอซ์จำนวน 500 กิโลกรัม จากเชียงใหม่ไปยังกรุงเทพมหานคร คดีนี้เมื่อช่วงค่ำวันที่ 3 พฤศจิกายน 2562 ตำรวจประจำด่านตรวจยาเสพติดสบปราบ อ.สบปราบ จ.ลำปาง ได้จับกุม นายโยธิน เขียวแก้ว จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 นายพัน จันทะจร ที่เป็นคนขับรถนำทางได้ที่บริเวณด่านตรวจยาเสพติด อำเภอสบปราบ จังหวัดลำปาง พร้อมรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาว ทะเบียน 1 กน 3184 กรุงเทพมหานคร

ระหว่างถูกจับกุมและตรวจค้นได้มีรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน 2 กฉ 3904 กรุงเทพมหานคร และรถเก๋งเอ็มจี ทะเบียน 6ก 389 กรุงเทพมหานคร ขับตามมาแล้วขับหลบหนีไป จึงได้แจ้งสกัดจับ ก่อนที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 จะติดตามรถทั้งสองคันที่ใช้ลำเลียงยาเสพติดและจับกุมได้ที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเช้ามืดวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 พร้อมผู้ต้องหา 4 คน คือ นายวิโรจน์ พิเกาะ จำเลยที่ 3, นายธนวัฒน์ เวียงยา จำเลยที่ 4, นายธนดล พิมนนท์ จำเลยที่ 5 และนายอิทธิพล ละจินดา จำเลยที่ 6 พร้อมของกลางไอซ์ซุกซ่อนเบาะหลังรถยนต์เก๋ง ทะเบียน 2 กฉ 3904 กรุงเทพมหานคร จำนวน 209 ถุง และกระโปรงหลังรถอีก 295 ถุง

จากนั้นมีการขยายผลจับกุม นายเอ็ม แก้วอดิษฐ และนางสาวณัฐจิตรา แก้วศรี เจ้าของยาเสพติด และก่อนหน้านี้จับกุมผู้ต้องหาขับรถยนต์นำทางได้อีก 2 คน บริเวณด่านตรวจยาเสพติด อำเภอสบปราบ จังหวัดลำปาง รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 8 คน ประกอบด้วย จำเลยที่ 1 นายโยธิน เขียวแก้ว จำเลยที่ 2 นายพัน จันทะจร จำเลยที่ 3 นายวิโรจน์ พิเกาะ จำเลยที่ 4 นายธนวัฒน์ เวียงยา จำเลยที่ 5 นายธนดล พิมนนท์ จำเลยที่ 6 นายอิทธิพล ละจินดา จำเลยที่ 7 นายเอ็ม แก้วอดิศฐ จำเลยที่ 8 นางสาวณัฐจิตรา แก้วศรี

อมา ตำรวจสืบสวนภาค 5 ได้ขยายผลจับกุม นายเอ็ม แก้วอดิศฐ จำเลยที่ 7 และนางสาวณัฐจิตรา แก้วศรี จำเลยที่ 8 ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างให้นายวิโรจน์กับพวกขนยาเสพติดของกลาง

ในชั้นพิจารณา จำเลยที่ 1-4 และจำเลยที่ 6-8 ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยที่ 5 ให้การปฏิเสธ ซึ่งศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้พิพากษาความผิดหลายมาตรา การกระทำของจำเลยทั้ง 8 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีระวางโทษไม่เท่ากัน ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง 8 แม้จำเลยที่ 1-4 และจำเลยที่ 6-8 จะสารภาพ แต่พิเคราะห์การกระทำความผิดครั้งนี้ ลักษณะการกระทำความผิดครั้งนี้เป็นกระบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยมีของกลางเมทแอมเฟตามีนมากถึง 500 ถุง คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์มากถึง 495,382.680 กรัม หากมีการจำหน่ายไปจะส่งผลกระทบสร้างปัญหาแก่สังคมและประเทศชาติเป็นอย่างมาก พฤติกรรมเป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่ลดโทษให้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงให้ประหารชีวิตสถานเดียว ริบ เมทแอมเฟตามีน รถยนต์ โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นของกลาง.

******************************

(ขอขอบคุณ ไทยรัฐออนไลน์)