รวบหนุ่ม…!! ซื้อปืนมีดปลอมจาก20บาท ก่อนปล้นธกส.กวาดไป5แสน อ้างอารมณ์ชั่ววูบ

วันที่ 28 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียนนำตัวนายไพบูลย์ สาระ อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี หลังก่อเหตุชิงเงินธนาคาร ธกส. บริเวณปากซอยเอกชัย 86 ได้เงินไปเกือบ 5 แสนบาท มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ

โดยจุดแรกคือที่สามแยกบางบอน เป็นจุดที่นายไพบูลย์ ลงจากรถแท็กซี่ ก่อนเดินไปซื้อมีดกับปืนพลาสติกจากร้านในราคา 20 บาท แล้วเดินไปกินข้าวในตลาด จากนั้นเดินข้ามถนนไปนั่งรถกะป้อสี่ล้อเล็กไปลงที่ปั้มซัสโก้ เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าภายในปั้ม หลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จได้เดินข้ามสะพานลอยไปที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ถามพนักงานเพื่อขอซื้อหนังสือพิมพ์ แล้วอ่านรอเวลา

จากนั้น นายไพบูลย์ได้เดินไปที่ธนาคาร ธกส. เข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่รปภ. โดยทำทีหาตู้เอทีเอ็ม เพื่อกดเงิน พอเดินไปที่ตู้เอทีเอ็มก็ทำทีเป็นกดเงิน ก่อนเดินขึ้นไปที่ชั้น 2 แล้วชักอาวุธพลาสติกออกมาข่มขู่พนักงาน

จากนั้นได้รื้อแผงอะคลิลิคแบบใส ที่ทางธนาคารติดตั้งไว้ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ด้านหน้าเค้าเตอร์ออก แล้วกระโดดข้ามไปชิงเงินจากในลิ้นชักเค้าเตอร์ กวาดเงินสดใส่ถุงพลาสติกและยัดใส่กระเป๋าสะพาย ก่อนวิ่งออกมาจากธนาคาร ข้ามสะพานลอยตรงไปทางรพ.บางประกอก 8 แล้วข้ามสะพานลอยอีกตรงบริเวณต่างระดับเอกชัย แล้วทิ้งปืนพลาสติกลงไปด้านล่าง เมื่อทิ้งปืนพลาสติกแล้วก็เดินลงมานั่งรถตู้โดยสารหลบหนีไป จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้เมื่อวานนี้

โดยนายไพบูลย์กล่าวเพียงสั้นๆว่า ตนทำอาชีพรับจ้าง ส่วนที่ก่อเหตุไปนั้นเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ตำรวจคุมตัวส่งศาลทันทีหลังจากทำแผนเสร็จ

ทั้งนี้ตำรวจสอบปากคำพบว่าผู้ต้องหาขัดสนเรื่องเงินเพราะตกงาน โดยก่อนหน้านี้ขับรถแท็กซี่ จึงลงมือก่อเหตุ โดยใช้เวลาดูลาดเลาไม่นาน ส่วนสาเหตุที่เลือกธนาคารดังกล่าว เนื่องจากมีคนไปใช้บริการไม่มาก โดยเงินที่ได้มาได้นำไปใช้จ่ายส่วนตัวประมาณ 1 แสนบาท ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการพนันหรือยาเสพติด อย่างไรก็ตามตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การ ยังอยู่ระหว่างการขยายผล ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหามีประวัติคดีการพนัน และคดียักยอกทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการต่อสู้คดี โดยตำรวจติดตามเงินคืนมาได้3แสนกว่าบาท