ตำรวจ สภ.แม่แตง จับลุงวัย 60 ปี หลังก่อเหตุข่มขืนเด็กหญิง 12 ปีหลานของเมียจนท้อง 7 เดือน เผยข่มขืนมาราธอนมาร่วมปี จนครูเห็นเด็กท้องโตผิดสังเกต เผยทำไปเพราะรักหลาน พบบังคับเด็กกินยาทำแท้งด้วย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ก.พ.64 พ.ต.อ.ณฐภณ แก้วกำเนิด ผู้กำกับการ สภ.แม่แตง และ ร.ต.อ.ฐิติวัชร์ ชลิตเลิศรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.แม่แตง สอบปากคำครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ครูได้พื้นที่อำแม่แตง ได้พาตัว เด็กหญิงเมย์ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี เข้าแจ้งว่าถูกลุงเขยข่มขืนมาราธอนตั้งแต่ปี 2563 จนตอนนี้ท้องได้ 7 เดือนกว่า ต่อมาพนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำเด็กหญิงผู้เสียหาย และพยานแวดล้อม ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายห้อย (นามสมมติ) อายุ 60 ปี ลุงเขยที่ก่อเหตุเมื่อวานนี้ 25 ก.พ. 64

ทีมสหวิชาชีพได้ร่วมสอบปากคำผู้เสียหายทราบว่า เด็กหญิงเมย์ และน้องชายอีก 1 คน เป็นลูกของน้องสาวภรรยานายห้อย ซึ่งทั้งคู่รับเด็กหญิงเมย์และน้องชายมาเลี้ยงดูตั้งแต่เด็ก กระทั่งก่อนเหตุเมื่อต้นปี 2563 ไม่มีใครอยู่บ้านเพราะออกไปทำไร่กันหมด นายห้อยจึงเรียกเด็กหญิงเมย์เข้าไปหาในห้องนอน และลงมือข่มขืนกระทำชำเรา ก่อนจะข่มขู่ไม่ให้เด็กหญิงเมย์นำเรื่องไปบอกใคร จากนั้นก็อาศัยโอกาสช่วงที่ไม่มีใครอยู่บ้านลงมือข่มขืนเด็กหญิงเมย์อีกหลายครั้ง

กระทั่งเมื่อเดือน ก.ค.ปี 63 เด็กหญิงเมย์ ประจำเดือนไม่มา จึงไปบอกนายห้อยให้ทราบว่า ตนเองน่าจะตั้งท้อง นายห้อยจึงไปซื้อยาทำแท้งแบบโบราณมาให้เด็กหญิงเมย์กิน แต่ปรากฏว่าท้องเด็กหญิงเมย์โตขึ้นเรื่อยๆ จนครูที่โรงเรียนสังเกตเห็น จึงเรียกเด็กหญิงเมย์มาสอบถาม จนรู้ว่าถูกนายห้อยซึ่งเป็นลุงเขยข่มขืน จึงพาเด็กหญิงเมย์เข้าแจ้งความ หลังศาลอนุมัติหมายจับปรากฏว่า นายห้อย ได้หลบหนีออกจากพื้นที่หมู่บ้าน และไปกบดานที่บ้านญาติในพื้นที่อำเภอสันป่าตอง ตำรวจจึงติดตามไปจับกุมตัวได้

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงเมย์ 4-5 ครั้งจริง ส่วนสาเหตุเพราะรักเด็กหญิงเมย์เหมือนลูกหลาน พร้อมขอความเห็นใจจากตำรวจเรื่องคดี ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา เพราะตนเองต้องดูแลภรรยาที่ขับรถไม่เป็น หากติดคุกก็จะไม่มีใครขับรถไปส่งหลานไปโรงเรียน

หลังสอบปากคำ นายห้อยถูกแจ้งข้อหา “กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตนและเป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดาน ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล”.