เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมาผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งประกาศตามหาน้องสาวที่หายไปพร้อมรถเก๋ง ตั้งเเต่ช่วงเช้า ภายหลังสามารถติดต่อได้เเละทราบว่า สัญญาณติดต่ออยู่บริเวณต.หนองซ้ำซาก อ.บ้านบึง

ซึ่งพี่สาว อายุ 32 ปี ได้เดินทางเข้ามาแจ้งความกับ ร.ต.ท.วรท ทวีสุข พนักงานสอบสวน สภ.บ้านบึง กระทั่งพบน้องสาวตนเองอยู่ในอาการเบลอ พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง

ต่อมาเวลา 17.00 น.  พี่สาวพร้อมผู้เสียหายกว่า 10 คน เดินทางมายังบ้านเลขที่ 105/48 หมู่บ้านคู่ขวัญ หมู่ 2 ต.หนองซ้ำซาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เพื่อเอาเรื่องกับ นายปิยะวัฒน์ หรือ ตี๋ อายุ 43 ปี ที่สวมบทเป็นร่างทรง แต่มี นางสุภินิ หรือ หมวย อายุ 44 ปี ภรรยาของตี๋ออกมารับหน้า ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปข้างใน อ้างว่า ไม่มีหมายค้น

เมื่อตำรวจสอบสวนสอบถามนายตี๋ ยอมรับว่าเสพยาเสพติด และอ้างว่า น้องสาว(เหยื่อ) พาตนขับรถไปซื้อยาเสพติด ในพื้นที่อ.บางละมุง และพามาส่งก่อนที่จะถึงบ้านพักตนเอง จากนั้นก็นอนหลับจนกระทั่งถูกควบคุมตัว

ด้านพี่สาวได้พาน้องสาวที่ยังอยู่ในอาการเบลอ พูดจาไม่รู้เรื่อง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนซึ่งพี่สาวเล่าว่า ตนได้รับแชทจากร่างทรงปลอมให้ไปทำพิธีแก้กรรม แต่ได้ปฏิเสธไป

ต่อมาทราบว่าร่างทรงโทรหาน้องสาวให้ขับรถมารับไปทำธุระ พอรู้ว่าน้องหายก็โพสต์ตามหา และรู้ว่าถูกร่างทรงล่อลวงพาเข้าโรงแรม และบังคับให้เสพยา ทำอนาจาร ซึ่งพฤติกรรมของร่างทรง พูดจาหว่านล้อมให้หลงเชื่อในทำนองว่ามีเคราะห์ ต้องแก้กรรม ทำพิธียกบายศรีเสริมความเป็นมงคล แล้วชีวิตจะราบรื่น สุดท้ายเป็นการหลอกลวง เพื่อต้องการพาไปร่วมเสพยาและทำอนาจาร ซึ่งคาดว่ามีหญิงสาวตกเป็นเหยื่อแล้วหลายราย

ด้านเพื่อนที่ทำงานของผู้เสียหายอีกหลายคน เปิดเผยพฤติกรรมของร่างทรงว่า ถูกร่างทรงพูดจาหว่านล้อมให้หลงเชื่อในทำนองว่ามีเคราะห์ ต้องแก้กรรม แล้วให้โอนเงินค่าบายศรีจำนวนหลายพันบาท ครั้งแรกผู้เสียหายไม่เชื่อ แต่ร่างทรงจะหว่านล้อมพูดในเรื่องต่างๆของผู้เสียหายให้ฟังแบบสุ่มๆจนเชื่อ แล้วโอนเงินค่าบายศรีในราคาสูงให้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป