“อิสราเอล” ยกเลิกสวมแมสก์ หลังฉีดวัคซีนให้ ปชช. เป็นวงกว้าง

วันที่ 18 เมษายนที่ผ่นามา เอพี รายงานว่า เป็นวันแรกที่ “อิสราเอล” ยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัย ในที่สาธารณะ พร้อมกลับมาเปิดโรงเรียนเต็มรูปแบบอีกครั้ง นับเป็นการผ่อนปรนมาตรการป้องกันโควิด-19 ครั้งล่าสุดของประเทศ หลังดำเนินโครงการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนเป็นวงกว้างในเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว จนยอดผู้ติดเชื้อร้ายแรงและผู้เสียชีวิตลดลงอย่างรวดเร็ว และทำให้เศรษฐกิจกลับมาเปิดเต็มรูปแบบอีกครั้ง

โรงเรียนประถมศึกษาและมัยธมศึกษาทั้งหมดกลับมาเปิดชั้นเรียนตั้งแต่วันนี้ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุยุติข้อกำหนดสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะที่บังคับใช้มานาน 1 ปี แต่ประชาชนยังต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่ร่มและเมื่อรวมกลุ่มขนาดใหญ่

อิสราเอลฉีดวัคซีนแก่ประชากรส่วนใหญ่อย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันไวรัสโคโรนา ในโครงการฉีดวัคซีนที่นำหน้าหลายประเทศทั่วโลก อิสราเอลยังยกเลิกข้อจำกัดส่วนใหญ่และประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนจะกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งเพื่อฉีดวัคซีนแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือน พฤษภาคมที่จะถึงนี้

นพ.นักมัน อัช ผู้เชี่ยวชาญไวรัสโคโรนาของอิสราเอล ให้สัมภาษณ์วิทยุสาธารณะอิสราเอล ว่า การเลิกบังคับสวมหน้ากากอนามัยในที่แจ้งและกลับมาเริ่มชั้นเรียนอีกครั้งเป็น “ความเสี่ยงที่มีการคำนวณมาล่วงหน้าแล้ว”

ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มการระบาดใหญ่เมื่อปีที่แล้ว อิสราเอลมียอดผู้ติดเชื้อกว่า 836,000 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 6,331 ราย ตามกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล ในส่วนของการฉีดวัคซีน ร้อยละ 53 จากประชากร 9.3 ล้านคน ได้รับวัคซีนไฟเซอร์/บิออนเทคครบ 2 โดสแล้ว