ความคืบหน้า กรณีขนมอาลัวรูปทรงพระเครื่อง หลากหลายสีสัน ของร้านขนมในแฟนเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ มาดามชุบ ที่เกิดกระแสดรามาร้อนระอุ หลังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์เป็นวงกว้าง หลายคนชื่นชมความคิดสร้างสรรค์ และความสวยงาม จนมีลูกค้าติดต่อไปสั่งซื้อกันล้นหลาม แม้จะต้องรอนานถึง 2 สัปดาห์ แต่หลายคนก็มองว่าไม่เหมาะสม เพราะพระเครื่องเป็นสิ่งที่คนเคารพนับถือ อาจกระทบความรู้สึกชาวพุธ อีกทั้งยังเข้าข่ายผิดกฎหมาย เสี่ยงถูกดำเนินคดี โทษจำคุก ตั้งแต่ 1-7 ปี ปรับหนักสูงสุด 14,000 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดราม่า อาลัวพระเครื่อง พระมหาไพรวัลย์ ชี้ ไอเดียดียุคโควิด ไม่เป็นเรื่องลบหลู่
เสี่ยงถูกดำเนินคดี โทษถึงคุก-ปรับหนักทนายความ เผย ขนมอาลัวพระเครื่อง เข้าข่ายมีความผิด !
กระแสกดดันดังกล่าว ส่งผลให้เจ้าของร้านมาดามชุบ ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อ ว่า “ทำขนมด้วยความจริงใจ ใส่ใจ ซื่อสัตย์กับคนซื้อ ไม่ได้หวังกระแสเปรี้ยงปร้างหรืออยากดัง” พร้อมประกาศปิดรับออเดอร์จากลูกค้าชั่วคราว และขอไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เพราะได้แจ้งเหตุผลของการทำไปแล้ว ไม่ได้หวังกอบโกยลูกค้าจากการทำขนมอาลัวรูปทรงพระเครื่อง แต่เป็นเพียงคนรักการทำขนมและประยุกต์ให้ร่วมสมัย ทำเลี้ยงลูกพอกินพอใช้ ไม่มีหน้าร้าน และขนมอาลัวที่ทำไม่ได้มีแค่รูปทรงพระเครื่อง แต่ยังมีทรงจุกพอดีคำ และมีขนมอื่นๆ ด้วย
ล่าสุด ทีมข่าว ลงพื้นที่ไปยัง ตลาดเก่าบางนกแขวก จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นที่อยู่ของเจ้าของร้าน มาดามชุบ พบบ้านพักปิดเงียบ แต่ภายในบ้านเปิดไฟไว้ สอบถามชาวบ้าน บอกว่า เจ้าของบ้านน่าจะไปตรวจคัดกรองโควิด-19 รอบที่ 2 ที่โรงพยาบาล เนื่องจากอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่ำ มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เข้ามาในพื้นที่เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน นางสาวมาลินี สวยค้าข้าว ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสงคราม พร้อมหน่วยงานฝ่ายปกครอง ได้ลงพื้นที่มาทำความเข้าใจกับเจ้าของร้าน มาดามชุบ ผ่านทางโทรศัพท์ โดยบอกว่า เนื่องจากมีผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม จ.สมุทรสงคราม ว่า อาลัวรูปทรงพระเครื่องเป็นสิ่งไม่เหมาะสม กระทบกระเทือนจิตใจผู้เคารพนับถือศาสนาพุทธ อีกทั้งยังเป็นการดูหมิ่น เหยียดหยามศาสนา จึงอยากขอความร่วมมือให้ยุติการทำขนมอาลัวรูปทรงพระเครื่องที่เป็นวัตถุมงคล และเป็นที่เคารพนับถือของชาวพุทธ
ด้านเจ้าของร้าน เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ส่วนตัวเข้าใจ และได้ยุติรับออเดอร์ขนมทุกอย่าง รวมถึงอาลัวรูปทรงพระเครื่องไปนานหลายวันแล้ว เพราะทำขนมเพียงคนเดียว แต่ยอดสั่งจองจากลูกค้ามีเข้ามามาก จนทำไม่ไหว เนื่องจากอยู่ระหว่างตั้งครรภ์ 8 เดือนด้วย
ส่วนสาเหตุที่ทำ เพราะเคยเห็นการทำขนมเบเกอรี่รูปทรงพระมาก่อนแล้ว จึงหยิบยกมาใช้กับงานขนมของตัวเอง โดยไม่ได้มีเจตนาจะเหยียดหยามศาสนา เพราะผลงานของร้านมีหลายหลายแบบ ทั้งรูปทรงดอกไม้ ทรงหยดน้ำ และไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องทำอาลัวรูปทรงพระเครื่องเท่านั้น แต่ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของชาวพุทธที่สนับสนุนขนมอาลัวรูปทรงพระเครื่องด้วย.