เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวันที่ 31 เม.ย. 2564 ได้มีเพจ ‘โรงพยาบาลนครพิงค์’ ได้บอกเล่าถึงปาฎิหาริย์ของอาการป่วยตัวเองที่มีอาการรุนแรงระดับวิกฤต ซึ่งเธอได้บอกว่า “เหมือนตายแล้วเกิดใหม่” โดยโรงพยาบาลนครพิงค์ได้เผยคำบอกเล่าของผู้ป่วยโควิด ที่มีอาการรุนแรงระดับวิกฤต ที่เคยต้องพึ่งพาเครื่องช่วยหายใจมานานหลายวัน จนในวันที่ได้ถอดพันธนาการจากเครื่องพยุงชีวิตต่างๆเหล่านั้น และแข็งแรงพอที่จะบอกเล่าความรู้สึกกับเราได้

เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง

ผู้ป่วยคนแรก เป็นหญิงวัย 58 ปี ส่งตัวจากรพ.ชุมชนมารักษาที่รพ.นครพิงค์ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน บอกกับเราด้วยเสียงที่ยังแหบ เนื่องจากใส่ท่อช่วยหายใจอยู่นาน 6 วัน” ขอบคุณนักๆเจ้า ตี้จ้วยฮื้อป้ารอดชีวิต ขอบคุณหมอพยาบาล อยากบอกกู้คนว่า กินร้อนช้อนกลาง ใส่หน้ากากนะเจ้า” คุณป้าไม่ลืมที่จะเป็นห่วงคนอื่นๆ
ผู้ป่วยคนที่ 2 เป็นชายวัย 44 ปี ส่งตัวจากรพ.สนามมารักษาที่รพ.นครพิงค์ ตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน ได้ใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ 6 วัน อาการค่อยๆทุเลาลง จนถอดท่อช่วยหายใจได้แล้ว ได้บอกกับเราว่า “อาการผมดีขึ้นมาก เหนื่อยนิดเดียวแล้ว ขอบคุณหมอ พยาบาลครับที่ช่วยผมผ่านวิกฤตมาได้ ” ผู้ป่วยทั้ง 2 รายนี้ ได้รักษาตัวในรพ.นครพิงค์ 8 และ 16 วันตามลำดับ จากที่เคยมีอาการระดับวิกฤต (สีแดง) จนในวันนี้อาการลดระดับลงมาเหลือเพียงปานกลาง (สีเหลือง) จึงได้ส่งตัวไปพักฟื้นต่อที่รพ.ชุมชน เพื่อให้รพ.นครพิงค์มีพื้นที่สำหรับดูแลผู้ป่วยที่มีอาการหนักกว่าต่อไป
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตต่างชื่นชนชมและขอบคุณคุณหมอเป็นจำนวนมากต่างแสดงความเห็นว่า”เป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยทุกๆคนค่ะ ขอบคุณคุณหมอ คุณพยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกๆคนค่ะ ขอให้ทุกคนปลอดภัยค่ะ” บ้างก็บอกว่า “เป็นจังหวัดที่ รักษาผู้ป่วยเป็นระบบระเบียบมาก น่าชื่นชม ส่วนกลางควรไปศึกษาดูงาน ว่าเชียงใหม่เขาทำยังไงถึงทำได้ดีทุกขั้นทุกตอน”