เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

คุณเคยเห็นเด็กจมน้ำมั้ย แล้วรู้มั้ยมีวิธีช่วยเหลืออย่างไร ถ้าอย่างงั้นคุณก็ควรจะรู้เรื่องต่อไปนี้ การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่ดีอย่างหนึ่ง แต่สำหรับเด็กๆ แล้ว หากไม่ระวัง ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำเสียชีวิตมากกว่า 3,500 ราย แล้ววิธีที่ถูกต้องในการช่วยเด็กจมน้ำต้องทำอย่างไร?

อย่างแรกที่ควรคำนึง ควรทำให้เด็กสามารถหายใจให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะฉะนั้นการรีดน้ำออกจากท้อง โดยการอุ้มแล้วกระทุ้งที่ท้องนั้นเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่าน้ำที่ออกจากการรีดท้องนั้น เป็นน้ำที่ออกมาจากกระเพาะไม่ได้ออกจากปอด

อีกข้อหนึ่งก็คือ เวลาที่เด็กจมน้ำ จะมีแบบที่เด็กรู้สึกตัวและไม่รู้สึกตัว ซึ่งทั้งสองแบบจะมีวิธีการช่วยแตกต่างกันออกไป
สำหรับเด็กที่ยังรู้สึกตัวและยังหายใจเองได้นั้น ให้รีบถอดชุดเปียกออกและเช็ดตัวให้แห้งหลังจากนั้นให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เพราะว่าการที่เด็กสามารถหายใจได้ในตอนนั้น ไม่ได้หมายความว่าปลอดภัยดี มีหลายกรณีที่อาจจะมีการหายใจลำบากเกิดขึ้นได้ภายหลัง มีสาเหตุมาจากถุงลมในปอดถูกทำลายจากการสำลักน้ำ

สำหรับเด็กที่ไม่รู้สึกตัวนั้น ให้รีบเรียกหน่วยกู้ภัยหรือตามคนมาช่วย และระหว่างรอการช่วยเหลือ เราต้องช่วยเปิดทางเดินหายใจ ให้เด็กนอนหงาย กดหน้าผากและเชยคางขึ้น การตรวจสอบว่ามีการหายใจนั้นให้สังเกตภายใน
3-5 วินาที โดยมองหน้าอกหรือท้องว่ามีการเคลื่อนไหวหรือไม่ แต่ในกรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี อาจต้องสัมผัสชีพจรที่อยู่บริเวณต้นแขนด้านใน ครึ่งทางระหว่างข้อศอกและหัวไหล่ เมื่อพบว่าเด็กไม่หายใจ ให้ประกบปากและจมูกของเด็ก หลังจากนั้นให้เป่าลมออก 2 ครั้ง แต่ละครั้งมีความยาว 1-2 วินาที และให้คนช่วยสังเกตว่าหน้าอกของเด็กนั้นขยายออกตามการเป่าลมหรือไม่

ถ้าเด็กไม่หายใจและไม่มีชีพจร ให้ทำการกระตุ้นการเต้นของหัวใจ ด้วยการกดในตำแหน่งบนกระดูกหน้าอกตรงกลางระหว่างหัวนมทั้งสองลงมาหนึ่งความกว้างของนิ้วมือ แล้วกดโดยการใช้สองนิ้วกดลึกให้กระดูกหน้าอกยุบลง 1-1.5 นิ้ว ความถี่ของการกดคือ กดหน้าอก 5 ครั้ง สลับกับการเป่าปาก 1 ครั้ง แต่ถ้าเป็นเด็กอายุมากกว่า 1 ปี ให้เปลี่ยนใช้สันมือกดลงไปแทน ให้ทำไปจนกว่าหน่วยฉุกเฉินจะมาถึง หรือกระทำในระหว่างการนำส่งจนถึงโรงพยาบาล

ทางที่ดี กันไว้ดีกว่าแก้ หากเด็กๆ เล่นน้ำ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ปกครองตลอดเวลา

ที่มา – PPTV