เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 เว็บไซต์เดลี่เมล นำเสนอเรื่องราวของช่างสักจากบราซิลซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ “มนุษย์ซาตาน” หลังจากที่เขาทำการดัดแปลงร่างกายตัวเองสารพัดจนมีรูปลักษณ์อันน่าสะพรึงไม่ต่างจากซาตาน พื้นที่ส่วนใหญ่ของร่างกายปกคลุมไปด้วยรอยสัก ไม่เว้นแม้แต่ลูกตา ปลายจมูกถูกตัด มีการฝังเขาและปุ่มเนื้อที่ศีรษะ อย่างไรก็ตามพบว่าล่าสุดเขาเพิ่งจะทำการดัดแปลงสุดสยองกับร่างกายของตัวเองให้เข้าใกล้สิ่งที่เรียกว่าซาตานมากขึ้น ด้วยการตัดนิ้วและฝังงาเข้าไปที่ปาก
ข่าวอื่นๆเพิ่มเติม

ไมเคิล ฟาโร โด ปราโด วัย 44 ปี ทำงานเป็นชักสักและเริ่มสักลายต่าง ๆ บนร่างกายของเขามานานกว่า 25 ปีแล้ว ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการดัดแปลงร่างกายอย่างสุดขั้ว พลิกโฉมตัวเขาให้ต่างจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง เปลี่ยนตัวเองให้เป็นพื้นที่แสดงผลงานชิ้นโบว์แดงของภรรยา ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านการดัดแปลงหรือเจาะร่างกาย  สำหรับการผ่าตัดล่าสุดของเขา เป็นการตัดนิ้วนางออกจากมือข้างหนึ่ง และนำเอานิ้วกลางออกจากมืออีกข้าง นอกจากนี้เขายังฝังเขี้ยวที่ยื่นออกมาเหมือนงา โดยเจ้าตัวอ้างว่าเสียค่าใช้จ่ายเพียง 5,000 เรอัลบราซิล หรือราว 31,000 บาทเท่านั้น

การตัดนิ้วในครั้งนี้ไม่ใช่การตัดชิ้นส่วนของร่างกายออกไปครั้งแรกสำหรับมนุษย์ซาตาน โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 2563 เขาเคยตัดปลายจมูกออกไปแล้ว แม้มันจะเป็นกระบวนการที่มีอันตรายอย่างมาก ทั้งยังอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาวก็ตาม 
ไมเคิล เผยว่า เขาทำอาชีพช่างสักมา 25 ปีแล้ว รอยสักของเขาส่วนใหญ่ได้มาจากช่างสักและมืออาชีพทั้งหลาย โดยเขามุ่งเน้นไปที่รอยสักแบบถมดำ ก่อนจะเริ่มได้ไอเดียในการดัดแปลงส่วนอื่น ๆ ของร่างกายมาจากภรรยา 
เขายังบอกอีกว่าาตัวเองสามารถอดทนต่อความเจ็บปวดได้สูง และโอเคที่จะต้องทนกับความเจ็บปวดที่มากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่างกายแบบที่ปรารถนา อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่ากระบวนการต่าง ๆ ที่ทำไปนั้น แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีการวางยาสลบ ซึ่งเขาก็ชอบที่จะไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดใด ๆ เลยมากกว่า แต่ถ้าต้องเจ็บปวดเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ เขาก็ยินดีเผชิญกับมัน
ขอบคุณรูปภาพจากอินสตราแกรม  @diabaopraddo
ขอบคุณข้อมูลจาก @เดลี่เมล