เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

หลังจากที่นศ.ฝึกงานที่กล้าออกมาแฉกลโกงศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งฯ ประธานสภาคณาจารย์ มมส.เผยผลสอบอาจารย์สั่ง “น้องแบม” กราบเท้าคนโกงเงินคนจนแล้วเสร็จ 16 มี.ค.นี้ ตั้งกรรมการฯ 9 คนเค้นข้อเท็จจริง 6 ประเด็น ชี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพราะต้องดูว่าเข้าข่ายผิดทั้งจรรยาบรรณและวินัยหรือไม่ ขณะที่การเยียวยาทางมมส.ไม่มีงบแต่จะรวบรวมเงินบริจาคช่วยเหลือน้องแบมเป็นค่าใช้จ่ายเรียนต่อปี 4

อีกประเด็นหนึ่งที่สังคมกำลังจับตากรณีศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่นโกงเงินคนยากไร้-ผู้ป่วยติดเชื้อ HIV กว่า 69 ล้านบาทภายหลัง “น้องแบม” นางสาวปณิดา ยศปัญญา นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม(มมส.) ได้ออกมาเปิดโปง โดยน้องแบมบอกว่าทันทีที่ล่วงรู้กลโกงภายในศูนย์ฯได้แจ้งให้กับอาจารย์ที่ปรึกษาทราบ แต่กลับถูกอาจารย์ตำหนิพร้อมกับสั่งให้ไปกราบขอโทษ ผอ.ศูนย์ฯ ซึ่งต่อมาทางสภา มมส.ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว

ล่าสุด ผศ.ดร.วิรัตน์ ปานศิลา ประธานสภาคณาจารย์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม(มมส) เปิดเผยว่าขณะนี้ผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีปัญหาดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ โดยทางมหาวิทยาลัยมหาสารคามได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทั้งหมด 9 คน ประกอบด้วย รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณะบดี 3 คณะ,ตัวแทนกองกิจการนิสิต และ เลขาธิการสภาคณาจารย์ ซึ่งได้มีการสอบไปแล้วบางส่วน โดยต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริง จากภาควิชาที่ น.ส.ปณิดา เรียนอยู่ เพราะเหตุเกิดจากภาควิชารวมถึงอาจารย์ที่เกี่ยวข้องด้วย

สำหรับประเด็นต่างๆที่คณะกรรมการฯต้องสอบหาข้อเท็จจริงมีทั้งหมด 6 ประเด็น ประกอบด้วย 1.อาจารย์ของหลักสูตรได้มีการร่วมกันปกปิดการปลอมแปลงเอกสารเบิกเงิน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ 2.เหตุใดอาจารย์จึงไม่ให้นิสิตดำเนินการแจ้งความเพื่อเป็นการป้องกันนิสิต ซึ่งจะเป็นผลดีต่อนิสิตในภายหลังหากว่ามีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด แต่กลับนำนิสิตไปไกล่เกลี่ยและมีการบังคับข่มขืนใจให้นิสิตก้มกราบผู้กระทำผิดหรือไม่

3.มีการใช้มือฟาดนิสิตหรือไม่และหากมี อาจารย์คนดังกล่าวทำผิดจรรยาบรรณหรือไม่ 4.การเรียกนิสิตมาสอบสวนและกระบวนการสอบสวนโดยคณะใช้อำนาจถูกต้องหรือไม่ ให้ความเป็นธรรมกับนิสิตหรือไม่และมีการละเมิดสิทธิของนิสิตหรือไม่

5.เหตุใดต้องมีการห้ามแชร์ข่าวและการห้ามนิสิตแชร์ข่าว แต่กลับปล่อยให้นิสิตบางกลุ่มโพสต์ข้อความในเชิงโจมตีนิสิต เป็นการละเมิดสิทธิของนิสิตหรือไม่และเป็นการปฏิบัติ 2 มาตรฐานหรือไม่ และ 6.ให้มีกลไกในการคุ้มครองสิทธินิสิตคนดังกล่าว เนื่องจากกำลังศึกษาชั้นปีที่ 4 ขณะที่อาจารย์คู่กรณีเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาการทำพัฒนานิพนธ์ ประธานและกรรมการหลักสูตรและเป็นหัวหน้าภาควิชา ที่มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาผลการเรียน อีกทั้งป้องกันไม่ให้อาจารย์ใช้อำนาจหน้าที่ละเมิดสิทธินิสิตคนดังกล่าวอีก

ผศ.ดร.วิรัตน์ เปิดเผยว่า เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน ต้องสอบในหลายประเด็น รวมถึง การสอบเรื่องของจรรยาบรรณ วิชาชีพของอาจารย์ หากพบว่ามีข้อเท็จจริงเข้าข่าย ก็ต้องดูว่าผิดจรรยาบรรณประเภทไหน รวมไปถึงการพิจารณาด้วยว่าเป็นการผิดวินัยหรือไม่ หากมีความผิดจริงก็ต้องว่าไปตามระเบียบของมหาวิทยาลัย

อย่างไรก็ตามคาดว่า ผลการสอบสวนของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นน่าจะสรุปได้ไม่เกินวันที่ 16 มีนาคม 2561 นี้ สำหรับข้อมูล เอกสารต่างๆนั้น น.ส.ปณิดาได้นำมามอบกับกรรมการสอบสวนของมหาวิทยาลัยหมดแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการสอบสวนข้อเท็จจริงเท่านั้น

ส่วนด้านการเยียวยา ทางสภาคณาจารย์มหาวิทยาลัยมหาสารคามไม่มีเงินสนับสนุนแต่จะมีการรวบรวมเงินบริจาคหรือสบทบทุนเพื่อนำไปช่วยเหลือ ในด้านการศึกษาของนางสาวปณิดา ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 ต่อไป

ที่มา – ผู้จัดการออนไลน์