นายกฯเวิร์กฟอร์มโฮม ประชุมครม.จากบ้านพัก ร.1 รอ. ถกเข้มสถานการณ์โควิด -19 มาตรการเยียวยาล็อกดาวน์ เคอร์ฟิว เปิดสูตรเดิมเยียวยาโควิด
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 มีรายงานว่า วันนี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.พิจารณามาตรการเยียวยาล็อกดาวน์ เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ต้องหยุดกิจการจากคำสั่งตามข้อกำหนดมาตราการ 9 ในพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ล่าสุด หลังจากวานนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) เพื่อกำหนดมาตรการนำเข้าครม.วันนี้
มีรายงานว่า มาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากการประชุม ศบศ. เมื่อวานนี้ เป็นวาระหลักที่จะเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม คณะรัฐมนตรี วันนี้ คาดว่าจะเป็นการเติมเงินช่วยเหลือเข้าโครงการเดิมที่มีอยู่ รวมถึงการช่วยเหลือค่าน้ำและค่าไฟ เพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนการทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home
อย่างไรก็ตามเป็นอีกสัปดาห์ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้บ้านพักเป็นสถานที่ทำงานประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากบ้านพักภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ประชุมคณะรัฐมนตรี เนื่องจากต้องกักตัว 14 วัน หลังเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงจากการเดินทางไปเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้วาระสำคัญที่ต้องติดตามก็คือสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด – 19 เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่พบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น และยังมีผู้ป่วยตกค้างรอการรักษาเป็นจำนวนมาก รวมถึงการประเมินสถานการณ์หลังจากใช้มาตรการล็อกดาวน์เฉพาะพื้นที่ 10 จังหวัดวันแรกเมื่อวานนี้
และที่ต้องจับตามอง คือการพิจารณามาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ ที่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม ศบศ. เมื่อวานนี้ โดยคาดว่าจะเป็นมาตการเดิมเงินเข้าโครงการเราชนะ และ ม.33 เรารักกัน เช่นที่เคยทำมาแล้ว และมาตรการอื่น ๆ เพิ่มเติม อาทิ การลดค่าครองชีพ ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ที่พักอาศัย เพื่อสนับสนุนการทำงานอยู่บ้าน 100% ในช่วงล็อกดาวน์
นอกจากนี้ที่ประชุมจะพิจารณาอนุมัติขยายระยะเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทุกเขตพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ในการใช้ควบคุมสถานการณแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.-30 ก.ย.64 ตามที่ ศบค. ชุดใหญ่เสนอ ด้วย
ขณะที่มีรายงานจากข้อกำหนดตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ “ล็อกดาวน์” ฉบับล่าสุด ปิดสถานที่เพิ่มเติม คือกิจการรนวดแผนโบราณ สถานเสริมความงาม สปา รวมถึงร้านค้าในห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งไม่ใช่ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านยา ฯลฯ
อย่างไรก็ตามย้อนดูมาตรการเยียวยาที่ครม.อนุมัติ จากคำสั่งปิดแคมป์คนงาน หยุดการก่อสร้าง และสั่งห้ามบริโภคอาหารในร้าน ในพื้นที่ กทม. และ 5 จังหวัดปริมณฑล เมื่อ 28 มิถุนายน 2564 โดยต้องจับตาว่ามาตรการเยียวยาโควิด หลังประกาศล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว จะมีทิศทางอย่างไร
มาตรการปิดสถานที่ ตามข้อกำหนดฯ ลงวันที่ 28 มิ.ย.64 ดังนี้
- ลูกจ้างประกันสังคมได้เงินช่วย 50% ของเงินเดือน ไม่เกิน 7,500 บาท ลูกจ้างสัญชาติไทยได้เงินเพิ่ม 2,000 บาท ผู้ประกอบการได้ 3,000 บาท ต่อหัวของลูกจ้างที่มี สูงสุดไม่เกิน 200 คน กรอบ 1 เดือน ทั้งนี้ให้บริษัทเอาเงินไปจ่ายเป็นเงินเดือนให้ลูกน้อง
- สถานประกอบการนอกระบบประกันสังคมให้รีบไปขึ้นทะเบียน ก็จะได้เช่นกันยกเว้นเงินช่วย 50% ของรายได้เพราะตามกฎหมายต้องสมทบเงินเข้าประกันสังคมอย่างน้อย 6 เดือนก่อนถึงจะได้รับเงินชดเชย แต่นายจ้างได้เงิน 3,000 บาท แรงงานได้เงินพิเศษ 2,000 บาท
- ร้านอาหาร-เครื่องดื่ม ที่ไม่มีลูกจ้าง ให้ลงทะเบียนในแอปพลิเคชันถุงเงินผ่านโครงการคนละครึ่ง ได้เงิน 3,000 บาท
- ส่วนแรงงานต่างด้าว นอกประกันสังคม จะไม่ได้รับการเยียวยา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง