ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามคดีการล่าสัตว์ป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ปาทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก โดยมีนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยพล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 3 โดยประเด็นหลักสำคัญมี 3 ประการ คือ 1.ดูประเด็นเรื่องการสอบสวนคดีของพนักงานสอบสวน 2.พยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เป็นฝ่ายรวบรวม และส่วนที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเป็นฝ่ายรวบรวม และ 3.เป็นเรื่องของนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีความสมบูรณ์และผลตรวจดีเอ็นเอทุกชิ้นออกมาเรียบร้อย และได้จัดส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประกอบในสำนวนคดีแล้ว
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทุกอย่างมาถึงจุดสมบูรณ์เกือบ 100 % พนักงานสอบสวนสามารถส่งสำนวนให้อัยการตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดได้ เชื่อมั่นว่าหลักฐานที่มีก็ไม่น่าจะมีอะไรหลุดหรือเบี่ยงเบน และมีความแน่นหนามาขึ้น ในส่วนคณะกรรมการฯ ติดตามคดี 9 ฐานความผิดหลักเกี่ยวกับการล่าสัตว์ป่าคุ้มครองในเขตรักษาพันธุ์ทุ่งใหญ่ฯ ส่วนคดีที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็นคดีงาช้าง อาวุธปืน หรือการบุกรุกป่าภูเรือ จ.เลย ก็เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามถึงกรณีการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ได้ให้นิติกรและรองอธิบดีกรมอุทยานฯ ออกจากห้องเหลือเพียงนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ นั้น พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องทางกระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าควรมีใครอยู่ในห้องสอบสวนบ้าง ซึ่งตนไม่ทราบในรายละเอียด เมื่อถามถึงกรณีพล.ต.อ.ศรีวราห์ระบุว่าไม่สามารถหาดีเอ็นเอมนุษย์ในวัตถุพยาน เช่น มีดและเขียงที่ส่งให้กรมอุทยานฯ ตรวจหาดีเอ็นเอเสือดำได้เพราะมีการใช้น้ำยาเคมีกับวัตถุพยานนั้น พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรขัดแย้งในส่วนของสำนวนคดี แต่ในการพูดคุยที่ออกสื่อก็อาจเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างที่กรมอุทยานฯ ดำเนินการเป็นไปด้วยดีทั้งหมด
ด้าน พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวว่า กรณีความสับสนในเรื่องดีเอ็นเอของผู้กระทำความผิดนั้น ตนยืนยันว่าในที่เกิดเหตุพบดีเอ็นเอของทั้งนายเปรมชัยและพวกทั้ง 4 คน โดยมีความเชื่อมโยงที่สามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดได้แล้ว ส่วนกระแสสังคมในเรื่องการขอให้เปลี่ยนตัวคนทำคดีก็เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตนตั้งข้อสังเกตว่าพล.ต.อ.ศรีวราห์ได้รับมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบงานด้านความมั่นคง ส่วนพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ดูแลรับผิดชอบคดีเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติฯหรือไม่ อย่างไรก็ตามเท่าที่ทราบคนทำสำนวนคดีเสือดำไม่ใช่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ซึ่งลงไปช่วยดูเท่านั้น แต่ท่าทีที่แสดงออกมาอาจทำให้สังคมไม่แฮปปี้ไปบ้าง แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำสำนวนมีความเป็นอิสระ พยานหลักฐานในสำนวนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง และเชื่อว่าไม่มีใครกล้าเปลี่ยนแปลงพยานหลักฐาน เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเป็นเหมือนคดีหวย 30 ล้าน และคดีนี้สังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
Cr:ข่าวสด