เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
 เว็บไซต์เดอะซัน รายงานว่า ยูสเซอร์ u/Stotallytob3r ได้โพสต์ภาพบนเว็บไซต์ Reddit ซึ่งกลายเป็นภาพไวรัลไปทั่วสังคมออนไลน์ และสร้างความฮือฮาอย่างมาก เพราะภาพดังกล่าวเผยให้เห็นรูปแกะสลักนักบวชที่กำลังทำท่าติดเรต ที่อยู่บนเพดานโบสถ์เก่าแก่แห่งหนึ่ง

ข่าวอื่นๆเพิ่มเติม

เหล่าชาวโซเชียลตั้งคำถามว่ามันคือภาพจริงหรือไม่ อยู่ที่ไหน แล้วนักบวชหรือคริสตศาสนิกชนผู้ศรัทธา ไม่เคยสังเกตเห็นเลยหรืออย่างไรว่ามีภาพทำนองนี้แอบซ่อนอยู่มานานหลายร้อยปี รูปแกะสลักดังกล่าวเป็นของจริง เป็นภาพนักบวชเปลือยท่อนล่าง ยกขาสองข้างขึ้นเหนือบ่า โชว์ของลับชัดเจน มันอยู่บนขอบเพดานไม้ของโบสถ์ All Saints Church ในเมืองเฮริฟอร์ด มณฑลเฮริฟอร์ดเชอร์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ

โบสถ์ All Saints Church เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองเฮริฟอร์ด
สร้างขึ้นในช่วงคริสศตวรรษที่ 12 อายุประมาณ 800 ปี ต่อมาในช่วงต้นคริสศตวรรษที่ 13 โบสถ์ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว และได้มีการบูรณะใหม่ ได้เกิดความเสียหายจากแผ่นดินไหว ทำให้ต้องบูรณะใหม่ ใช้เวลานานกว่าร้อยปีกว่าจะแล้วเสร็จ
ในปี 2539 โบสถ์ได้ปิดตัวลง เนื่องจากความเก่าแก่และทรุดโทรมมาก จึงมีการบูรณะใหม่เกือบทั้งหมด และได้กลายเป็นศูนย์เอนกประสงค์ของชุมชน และมีคาเฟ่ชื่อดังเปิดให้บริการ

สำหรับ รูปสลัก 18+ ที่ว่านั้น เฮริฟอร์ดไทม์ส รายงานว่า เชื่อว่าสร้างขึ้นในช่วงคริสศตวรรษที่ 15 โดยน่าจะเป็นฝีมือของช่างไม้คนหนึ่งในยุคนั้นที่น่าจะเกิดความไม่พอใจอะไรบางอย่าง จึงได้รังสรรค์ผลงานชิ้นเอกนี้ประทับเอาไว้สืบไปชั่วลูกชั่วหลานไม่มีใครสังเกตเห็นรูปสลักนูนต่ำนี้ จนกระทั่ง บิล ซีเวลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร เปิดคาเฟ่ขึ้นในพื้นที่โบสถ์ และมีคนสังเกตเห็นเข้าโดยบังเอิญ

โดยผลงานศิลปะชิ้นนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า Seamus O’Toole ซึ่งได้สร้างกระแสดราม่าไม่น้อยในชุมชน บ้างก็ว่าบัดสีควรกำจัดทิ้ง บ้างก็ว่ามันคือของเก่าแก่ที่สำคัญ และควรปล่อยไว้เช่นนั้น ต่อมาในปี 2541 สาธุคุณ แอนดรูว์ มอตแทรม เจ้าอาวาสหัวสมัยใหม่ แนะนำอย่างจริงจังให้นำรูปสลักนี้มาทำโปสการ์ดขาย แต่แน่นอนว่าสังฆมณฑลแห่งเฮริฟอร์ดเชอร์ไม่อนุมัติ ไม่อนุญาต

หลังจากผ่านไป 23 ปี อยู่ดี ๆ Seamus O’Toole ก็กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง และโด่งดังยิ่งกว่าเดิมเพราะคนแชร์ไปทั่วอินเทอร์เน็ตจนเป็นไวรัล ซึ่งเหล่าพนักงานประจำคาเฟ่และเจ้าหน้าที่โบสถ์ ยอมรับว่าประหลาดใจมาก แต่ทุกคนต่างก็ยินดีที่มันกลายเป็นที่โด่งดัง

หลังจากนี้ น่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยเดินทางมาดูของจริงให้เห็นกับตา และอาจจจะกลายเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับชุมชนก็เป็นได้