เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 20 ส.ค.2564 พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ. สั่งการให้ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.สุนิสา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี และ นายพัชรศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ตามหมายจับของศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ”

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายรายหนึ่ง แจ้งความพนักงานสอบสวนของ สน.ห้วยขวาง หลังจากมีความต้องการจัดหาเครื่องช่วยหายใจและชุดพีพีอี เพื่อนำไปมอบให้กับศูนย์พักคอยผู้ป่วยโควิด-19 ของกทม. จึงติดต่อหาซื้อผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อกลุ่ม “ซื้อ/ขาย ชุดPPE ชุดCPE ชุดกันฝุ่นและสารเคมีชุดปลอดเชื้อ” ก่อนพบเฟซบุ๊ก ใช้ชื่อ SUNISA SUNISA โพสต์ขายอุปกรณ์หลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับโควิด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สาวเสียท่า เจอต่างชาติในแอปฯ หาคู่หลอกว่ารวย สุดท้ายหมดทั้งเงินโดนทั้งคดี

หนุ่มแสบ หลอกขายวัคซีนทางเลือก บนโลกออนไลน์ มีผู้เสียหายกว่า 50 คนแล้ว

“แซม ยุรนันท์”ยื้อไม่ไหว จำใจปิดธุรกิจฟิตเนสที่ทำมาร่วม10 ปี เพราะพิษโควิด

โดย น.ส.สุนิสา ได้เสนอขายชุดพีพีอี จำนวน 260 ชุด และเครื่องช่วยหายใจอีก 22 เครื่อง ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปที่บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี พัชรศักดิ์ ทั้งหมด 6 ครั้ง เป็นเงิน 479,600 บาท ปรากฏว่าเมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปเรียบร้อยและรอรับสินค้า ก็ไม่สามารถติดต่อน.ส.สุนิสาได้อีกเลย จึงเชื่อว่าถูกหลอกและรีบเข้าแจ้งความ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เห็นว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้อาศัยสถานการณ์ของการแพร่ระบาดโควิด-19 หลอกขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่ประชาชน หากไม่รีบจับกุมก็อาจไปก่อเหตุขึ้นซ้ำอีก กระทั่งสืบทราบว่า น.ส.สุนิสา หลบหนีมาพักอยู่ที่ย่านแขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ ส่วน นายพัชรศักดิ์ นั้นหลบหนีมาพักอยู่ที่ย่านแขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กทม. จึงเข้าจับกุมได้ดังกล่าว

เบื้องต้นสอบสวน น.ส.สุนิสา ให้การยอมรับสารภาพว่า ตนเห็นว่าช่วงนี้อุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ กำลังขาดแคลน แต่ตนไม่มีสินค้า จึงนำภาพ เช่น ชุดพีพีอี หรือ เครื่องช่วยหายใจ มาจากเฟซบุ๊กของผู้อื่น แล้วนำมาโพสต์หลอกขาย โดยจะให้ผู้เสียหายโอนเงินมาเข้าบัญชีของนายพัชรศักดิ์ซึ่งเป็นเพื่อน

จากการตรวจสอบยังพบอีกว่า น.ส.สุนิสาเคยก่อเหตุหลอกขายสินค้าออนไลน์มาแล้วหลายครั้งตั้งแต่ปี 2561 ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์เป็นจำนวนมากในหลายพื้นที่ แต่ยังไม่มีหมายจับ ส่วนนายพัชรศักดิ์ก็ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้เปิดบัญชีให้ น.ส.สุนิสา นำไปใช้จริงโดยตนจะได้ส่วนแบ่งแค่ 3 เปอร์เซ็นต์ของยอดเงินที่โอนเข้ามา จึงแจ้งข้อหาตามหมายจับนำตัวส่งสน.ห้วยขวาง ดำเนินคดีต่อไป