“Playboi Carti” จากอดีตเด็กเทพบาสเกตบอลสู่การเป็นแรปเปอร์
ในยุคที่ดนตรีฮิปฮอปกำลังเฟื่องฟูจนสามารถครองตลาดวงการเพลงส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเงี่ยหูไปทางไหนก็มักจะได้ยินเสียงบีท เสียงแรปอยู่เสมอ โจทย์หลักของศิลปินเหล่านี้จึงเป็นการทำอย่างไรก็ได้ให้ตัวเองแตกต่างมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของภาคดนตรี การเขียนเพลง สไตล์ รวมถึงการนำเสนอ
“เพลย์บอย คาร์ติ” (Playboi Carti) คือหนึ่งในศิลปินที่มีคุณสมบัติตามที่ว่ามาแทบทั้งสิ้น เขาคือแร็ปเปอร์จากเมืองแอตแลนตา จอร์เจีย ที่สร้างความแตกต่างด้วยการนำเสนอฮิปฮอปแบบโนสนโนแคร์ในแบบของเขาเอง ด้วยบีทที่หนักหัวเหมาะสมแก่การมอชในคอนเสิร์ตมากกว่าการร้องตามหรือเนื้อเพลงที่ไม่ได้มีความสุขุมแฝงนัยยะอันลึกซึ้ง แต่มักจะร้องวนไปวนมาเพื่อเอาสนุกอย่างเดียว
ว่ากันว่าสาเหตุที่คาร์ติไม่ได้เป็นศิลปินที่มีความถนัดเฉพาะในการเขียนเพลง นั่นก็เป็นเพราะว่าการเป็นแรปเปอร์ไม่ใช่ตัวเลือกแรกในเส้นทางอาชีพของเขา เดิมทีนายคนนี้อยากที่จะเป็นนักบาสเกตบอลอาชีพมาก่อน และฝีมือของเขาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ทว่าชีวิตของเขาต้องพลิกผันเพียงแค่เขาทะเลาะกับโค้ชเท่านั้น?
แม้เขาจะไม่ใช่ศิลปินที่มีรัศมีความดังเท่ากับ เย หรือ เดรค แต่หากพิจารณาจากฐานแฟนคลับของคาร์ติ ณ ตอนนี้ ก็สามารถการันตีได้ด้วยการเป็นเฮดไลน์ในเทศกาลดนตรีใหญ่ๆ อาทิ Rolling Loud ที่ไมอามีหรือนิวยอร์ก นี่คือศิลปินที่มาแรงที่สุดคนหนึ่งแห่งยุค
Main Stand จะขอชวนทุกคนไปทำความรู้จักอดีตเด็กบาสผู้หันหลังให้กับ NBA คนนี้ไปพร้อมๆกัน
IN NEW YORK I MILLY ROCK
“จอร์แดน เทอร์เรลล์ คาร์เตอร์” (Jordan Terrell Carter) เกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายนปี 1996 เป็นแรปเปอร์ชาวอเมริกันจากเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย โดยกำเนิด เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพนี้ครั้งแรกในปี 2011 ด้วยวัยเพียง 14 ปี และก่อนหน้านั้นเขาเคยใช้ชื่อว่า “เซอร์ คาร์ทิแอร์” (Sir Cartier) มาก่อน ก่อนที่จะมาเปลี่ยนเป็น “เพลย์บอย คาร์ติ” (Playboi Carti) พร้อมจากแอตแลนตาบ้านเกิดไปอยู่ที่นิวยอร์ก ซิตี้ ในปี 2013 และดังเป็นพลุแตกจากการปล่อยมิกซ์เทป ชื่อ “Playboi Carti” ชื่อเดียวกับตัวเองออกมาในปี 2017
ด้วยความที่ความสามารถของ คาร์ติ ไปเข้าตาแรปกรุ๊ปรุ่นพี่จากนิวยอร์ก ซิตี้ อย่าง “เอแซ็พ ม็อบ” (ASAP Mob) มิกซ์เทปชุดนี้ของคาร์ติจึงออกมาภายใต้สังกัด AWGE สังกัดเพลงของแรปกรุ๊ปดังกล่าวและยังมีเพลงฟีเจอร์กับแรปเปอร์รุ่นพี่ฝีมือดีอย่าง “เอแซ็พ ร็อคกี้” (ASAP Rocky) อีกด้วย
มิกซ์เทปของคาร์ติได้รับความสนใจจากสื่อฮิปฮอปชื่อดังอย่าง XXL, สื่อเพลงออนไลน์อเมริกันอย่าง Pitchfork และ Spin ส่งผลให้เขาเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วในแวดวงฮิปฮอป ด้วยเอกลักษณ์การใช้ “เสียงแบบเด็ก” (Baby Voice) ที่ให้ความรู้สึกแบบขี้เล่น เข้ากับบีทที่ “ปิแอร์ บอร์น” โปรดิวเซอร์ของเขาเป็นคนโปรดิวซ์ จนกลายมาเป็นโฉมหน้าที่แตกต่างอย่างชัดเจนในวงการฮิปฮอปเมื่อปี 2017
มิกซ์เทปชุดนี้ไต่ขึ้นไปสูงสุดอยู่ที่อันดับ 12 ของชาร์ตบิลบอร์ด 200 ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขอันดับที่สูงมากๆในฐานะศิลปินหน้าใหม่ ที่ประกอบไปด้วยเพลงฮิตอย่าง “wokeuplikethis*” ที่ได้ศิลปินรุ่นพี่อย่าง “ลิล อูซี เวิร์ต” (Lil Uzi Vert) เข้ามาร่วมแจมด้วย โดยมียอดเข้าชมมิวสิกวิดีโอสูงถึง 68 ล้านครั้งในยูทูบ
หรือจะเป็นเพลง “Magnolia” ที่ตอนนี้มียอดสตรีมในสปอติฟายสูงถึง 490 ล้านครั้งแล้ว กับประโยคฮิตของเพลงอย่าง “In New York I Milly Rock (Rock), Hide it in my sock (Sock)” ที่มีความหมายแบบสองแง่สองง่าม ในทางหนึ่งแปลได้ว่า “ฉันอยู่ในนิวยอร์ก เต้นท่ามิลลี่ร็อกอยู่” หรือในอีกความหมายหนึ่งคือ “ฉันอยู่ในนิวยอร์ก กำลังใช้โคเคนอยู่” เมื่อจับมาร่วมกับประโยคด้านหลัง จึงเหมือนเป็นการซ่อนสารเสพติดไว้ในถุงเท้านั่นเอง
เพลง Magolia เป็นเพลงที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “The Magnolia Projects” โครงการอสังหาริมทรัพย์สุดอันตรายในเมืองนิวออร์ลีนส์ พื้นที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งอาชญากรรมชั้นดีของรัฐที่เต็มไปด้วยการซื้อขายสารเสพติดและความรุนแรง เป็นภาพแทนของความสำมะเลเทเมาที่คาร์ติเลือกใช้มานำเสนอในงานของเขา เพลงนี้จึงเป็นเพลงที่สะท้อนตัวตนและการใช้ชีวิตแบบรวดเร็วไม่คิดหน้าคิดหลังของเขาได้อย่างเหมาะสม
หากสำรวจเนื้อเพลงส่วนมากของคาร์ติ นี่คือตัวอย่างชั้นดีของคนประเภทปาร์ตี้แอนิมอล กล่าวคือคาร์ติได้ใช้ชีวิตแบบสุดลิ่มทิ่มประตูอย่างแท้จริง แต่หารู้ไม่ว่าเขาเคยเป็นคนที่มีระบบระเบียบในการใช้ชีวิตและมีวินัยต่อการออกกำลังกายเป็นอย่างมากมาก่อน
เพราะครั้งหนึ่ง จอร์แดน เทอร์เรลล์ คาร์เตอร์ เคยฝันอยากเป็นนักบาสเกตบอล NBA
CHOPPA WON’T MISS
ก่อนรถแรงและสร้อยเพชร ชีวิตของ จอร์แดน เทอร์เรลล์ คาร์เตอร์ เคยมีแต่ลูกบาสและแป้นบาสมาก่อน เพราะคาร์เตอร์เคยอุทิศชีวิตให้แก่การฝึกซ้อมบาสเกตบอลอย่างหนักมาตั้งแต่วัยประถมถึงมัธยม ในฐานะผู้เล่นตำแหน่งพอยต์การ์ดประจำทีมของโรงเรียนประถมแบร์ครีกและโรงเรียนมัธยมนอร์ธ สปริง ชาร์เตอร์ ในจอร์เจีย เพื่อที่จะเป็นนักบาสเกตบอลอาชีพเข้าไปเล่นในลีกใหญ่อย่าง NBA ให้ได้
เขามีไอดอลเป็นนักบาสเกตบอลอย่าง “วินซ์ คาร์เตอร์” อดีตนักบาสเกตบอลดีกรีออลสตาร์ 8 สมัย ที่มีชื่อเสียงอย่างมากระหว่างที่เล่นให้กับทีมโตรอนโต แร็ปเตอร์ส, “เทรซี่ แม็คเกรดี้” อดีตนักบาสเกตบอลออลสตาร์ 7 สมัยแห่งทีมโตรอนโต แร็ปเตอร์ส เช่นกัน, “อัลเลน ไอเวอร์สัน” ออลสตาร์ 11 สมัย อดีตผู้เล่นฝีมือดีจากทีมฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส และ “ไมเคิล จอร์แดน” นักบาสเกตบอลระดับตำนานแห่งทีมชิคาโก บูลส์
คาร์เตอร์ เคยให้สัมภาษณ์ไว้กับ The Fader ไว้ครั้งหนึ่งถึงอดีตของเขาที่มีแต่ลูกบาส ถึงบาสเกตบอลจะเป็นสิ่งที่เขาไม่ได้อินแล้วในปัจจุบัน แต่การเล่นบาสเกตบอลในอดีตของเขายังช่วยให้เขาสามารถหลบหนีปัญหาจากสภาพแวดล้อมของแอตแลนตาตอนใต้บ้านเกิดของเขาได้ เพราะมันเต็มไปด้วยความรุนแรง ภาพของคาร์ติในตอนนั้นไม่ต่างจากเด็กที่อยู่ในโอวาท เอาแต่เล่นกีฬาฝึกซ้อมอยู่ทุกวัน
“นั่นเป็นสิ่งที่แบ่งแยกผมกับเด็กคนอื่นๆเลย วันๆผมออกจากบ้านไปฝึกซ้อม ถึงวันหนึ่งก็ได้ออกนอกเมืองเพื่อไปแข่ง เป็นแบบนี้ทั้งปี ผมเคยเป็นนักกีฬายัดห่วง เคยมีฝันอยากเป็นนักกีฬาบาสเกตบอล มันเคยมีช่วงเวลาที่ผมเอาแต่ดังก์ เลี้ยงบอลอยู่ในสนาม เอไอ (อัลเลน ไอเวอร์สัน) เป็นผู้เล่นคนโปรดของผม ไมเคิล จอร์แดน กับ เทรซี่ แม็คเกรดี้ ก็ด้วย”
ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นเด็กที่เล่นบาสเกตบอลได้ดี แต่คาร์ติก็เหมือนกับเด็กวัยรุ่นทั่วๆไปที่ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานจนเกินลิมิตไปบ้างบางครั้ง
“ผมมักจะสูบกัญชาก่อนไปซ้อมประจำเลย แต่พอไปเล่นก็ทำแต้มได้ประมาณ 30 จนเพื่อนถามว่า -เอ็งบ้าไปแล้วเหรอเนี่ย?-”
ในขณะที่คาร์เตอร์กำลังใช้ชีวิตอย่างสนุกไปพร้อมๆกับการไล่ตามความฝันการเป็นนักบาสเกตบอล พี่ชายของเขา “เรจจี้ คาร์เตอร์” ก็ได้แนะนำเพลงมากมายให้แก่น้องชายของเขา จนเขาค่อยๆเปลี่ยนเป็นความชอบในที่สุด
เรจจี้ คาร์เตอร์ พี่ชายของ จอร์แดน เป็นคนที่นำเพลงฮิปฮอปมาเปิดให้น้องชายฟังอยู่บ่อยๆ นั่นจึงเป็นเหมือนเมล็ดที่ค่อยๆหยั่งรากในตัวเขามาเรื่อยๆ จอร์แดน คาร์เตอร์ เริ่มโดดเรียนเพื่อไปอัดเพลงที่บ้านของเพื่อนและมีผลงานออกมาจำนวนหนึ่ง (ปัจจุบันหาฟังไม่ได้เพราะเจ้าตัวลบออกไปจากอินเทอร์เน็ตแทบทั้งหมดแล้ว)
เซอร์ คาร์ทิแอร์ แรปเปอร์ตัวตนแรกของคาร์เตอร์ได้ถือกำเนิดขึ้นและเขาก็กล้าพอที่จะทิ้งบาสเกตบอล สิ่งที่เขารู้จักเพียงอย่างเดียวไว้ด้านหลัง เขาเริ่มโดดเรียนไปอัดเพลงบ่อยขึ้นๆในขณะที่ทำงานควบไปด้วยที่ร้านเสื้อผ้า H&M จนหลายๆคน แม้แต่ครอบครัวก็คิดว่าเขาไม่น่าจะเรียนจบ
มีเรื่องเล่าว่าเขาถึงขนาดทะเลาะกับโค้ชบาสเกตบอลที่โรงเรียน จนเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาหันหลังให้แก่แป้นบาส ถึงอย่างไรไม่มีใครรู้ว่าการทะเลาะกันครั้งนั้นร้ายแรงขนาดไหน? แต่คาร์เตอร์ก็ตัดสินใจเดินออกมา เพราะต้องการจะทำอะไรที่มากกว่าการฝึกซ้อมแล้วกลับบ้าน
“ผมอยากทำอะไรก็ตามที่มากกว่าสิ่งที่ผมทำอยู่ ผมเคยตั้งใจไถสเกตบอร์ดมาฝึกซ้อมบาสเกตบอล เคยอยากเป็นเหมือนกับ อัลเลน ไอเวอร์สัน หรือ เทรซี่ แม็คเกรดี้”
เป็นไปได้ว่าชีวิตด้านนี้ของคาร์เตอร์ช่วงนี้อาจเต็มไปความกดดัน เพราะใครก็ตามที่พยายามจะก้าวขึ้นไปเป็นใหญ่ในอเมริกันเกมส์ ต่างก็ต้องเตรียมพร้อมกันตั้งแต่วัยมัธยมทั้งสิ้น เพื่อวันหนึ่งจะได้ไปเข้าตาทีมไหนสักทีมให้เลือกดราฟต์เขาเขาทีมไปในอนาคตหลังจากที่จบการศึกษา
ขอบคุณคลิปจาก SOHH
โชคดีที่คาร์เตอร์ได้รู้ว่าเขาชอบอะไรก่อนที่จะหักเลี้ยวต่อไปไม่ทัน เขาให้สัมภาษณ์กับ BigBoyTV ไว้ในปี 2018 ว่า
“ผมก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่พยายามจะหาบางสิ่งบางอย่างให้กับชีวิต แต่พอวันหนึ่งผมโตขึ้น ผมได้อินอะไรกับที่ผมอินจริงๆ สุดท้ายมันก็คือการแรปนี่แหละ”
ถึงจะฟังดูบ้าบิ่นขนาดไหนที่เขาทิ้งชีวิตแบบนั้นมา แต่คาร์เตอร์ก็สามารถเรียนจบโรงเรียนไฮสคูลได้สำเร็จ ลบคำปรามาสที่เขาได้เคยรับไปหมดสิ้น มาถึงตอนนี้เขาก็กลายเป็นหนึ่งในศิลปินฮิปฮอปที่มาแรงที่สุดของวงการคนหนึ่ง แต่ความชอบในบาสเกตบอลของเขาก็ใช่ว่าจะหายไปจนไม่เหลือเลย
ROCKSTAR MADE
ด้วยความที่เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว อินเทอร์เน็ตและสื่อยังไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าไรนัก ผลงานและวิดีโอของคาร์ติในสมัยนั้นจึงยากที่จะหาดูได้ประมาณหนึ่ง รวมไปถึงมิวสิกวิดีโอเพลงช่วงแรกของเขาที่ทำกันเองกับเพื่อนตอนที่เริ่มต้นอาชีพสายนี้
อย่างไรก็ตาม คาร์ติ ในปัจจุบันยังคงสนับสนุนทีมบาสเกตบอลในบ้านเกิดของเขา จากคำบอกเล่าของโค้ชโรงเรียนประถมแบร์ครีกในรัฐจอร์เจีย คาร์ติเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ในการซื้ออุปกรณ์กีฬา ตั้งแต่เสื้อ, กางเกง, กระเป๋า และ รองเท้า ให้แก่ทีมบาสเกตบอลที่เป็นโรงเรียนเก่าของเขา
แฟนๆของคาร์ติยังคงได้เห็นเขาเล่นบาสเกตบอลบ้างในบางครั้งผ่านโซเชียลมีเดีย สิ่งนี้ก็ได้แต่ทำให้เรานึกสงสัยว่า หากวันนั้นเขาไม่ได้หันหลังให้กับเส้นทางอาชีพบาสเกตบอลและยังโลดแล่นอยู่ในลีก NBA ณ ขณะนี้เขาจะเป็นอย่างไร?
จากการเปรียบเทียบกันในหลายๆสื่อของต่างประเทศ ที่นำแรปเปอร์กับผู้เล่น NBA มาเทียบกันว่าใครเหมือนใครบ้างในทั้งสองวงการ ไม่ว่าจะเป็น The Medium ที่บอกว่า หากคาร์ติอยู่ในวงการบาสเกตบอล ความมุมานะของเขา ก็คงมีลักษณะคล้ายกับ ยานนิส อันเททูคุมโป แห่งมิลวอกี้ บัคส์ อีกทั้งยังเป็นคนที่อุทิศตัวให้กับแฟนๆเหมือนกัน หรือ Complex ที่บอกว่าเขาอาจจะเหมือน เดนนิส สมิธ จูเนียร์ ที่เคยเล่นให้กับดัลลัส มาเวอร์ริคส์ (ปัจจุบันเล่นให้กับ พอร์ตแลนด์ เทรล เบลเซอร์) ในฐานะคนที่เติบโตในอาชีพได้อย่างก้าวกระโดดเหมือนๆกัน อยู่ที่ว่าเขาจะเลือกเดินในอาชีพนั้นได้อย่างชาญฉลาดหรือไม่
แม้ว่าจะพลาดโอกาสที่จะได้เห็นเส้นทางอาชีพทางกีฬาของเขา แต่ก็เป็นเรื่องดีสำหรับแฟนเพลงที่เราได้ เพลย์บอย คาร์ติ มาแทน จอร์แดน เทอร์เรลล์ คาร์เตอร์ เพราะเขาถือเป็นหนึ่งในศิลปินที่แตกต่างที่สุดคนหนึ่งในวงการฮิปฮอป ไม่ว่าจะเป็นมิกซ์เทปที่สร้างชื่อให้กับเขา, อัลบั้ม “Die Lit” ที่ปล่อยออกมาในปี 2018 หรือ “Whole Lotta Red” อัลบั้มล่าสุดที่ปล่อยออกมาในปลายปี 2020 ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์แทบทั้งสิ้น อีกทั้งยังเต็มไปด้วยทัศนคติแบบ “GET LIT” อย่างเต็มหลอดแทบทุกครั้ง ทำให้ทุกโชว์ของเขาบ้าคลั่งเป็นพิเศษ อย่างงานล่าสุดที่เกิดขึ้นในเทศกาลดนตรี Rolling Loud นิวยอร์ก ซิตี้
ขอบคุณคลิปจาก Rolling Loud
เพลย์บอย คาร์ติ อาจจะไม่ใช่แรปเปอร์ที่โหดที่สุดในเกมแรปและไม่ใช่นักบาสเกตบอลที่เก่งที่สุดในสนาม แต่สิ่งที่เราพอจะเรียนรู้ได้จากเขาก็อาจเป็นความเด็ดขาดและความกล้าที่จะอุทิศตัวเองให้กับสิ่งที่ชอบจริงๆ ถึงวันหนึ่งความชอบในการแต่งตัวของเขาก็อาจทำให้เขาเลิกร้องเพลงแล้วไปเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ต่อก็เป็นได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง