“ยุทธพงศ์”แฉแหลก รัฐบาลไทย–กองทัพเรือ ซื้อเรือดำน้ำ แต่ไม่มีเครื่องยนต์ แถมยังส่งครูสอนภาษา มาคุมงานก่อสร้างท่าจอดเรืออีก
วันที่ 27 ก.พ.65 เมื่อเวลา 10.15 น.ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรคพท.แถลงกรณีความไม่โปร่งใสการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือว่า เรือดำน้ำมี 3 ลำ มูลค่ารวม 44,222 ล้านบาท ซื้อแล้ว 1 ลำ มูลค่า 12,424 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯหรือพระรามตู่ก็จะซื้อ แต่พรรคพท.เบรกเอาไว้
ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการก่อสร้างท่าจอดเรือดำน้ำและอาคารสนับสนุนบริเวณท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ ระยะที่ 1 (2563-2564) งบ 900 ล้านบาท และระยะที่ 2 (2564-2566) งบ 950 ล้านบาท ถือเป็นการก่อสร้างหนี้ก้อนใหญ่ให้กับประเทศ มีการเซ็นสัญญาว่าจ้าง เบิกเงินล่วงหน้าไปแล้ว 15% ตั้งแต่เม.ย.64 โดยที่ไทยไปจ้าง บ.csoc ซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนของทางการจีน
โดยบริษัทอ้างว่าต้องส่งช่างเทคนิคทางทหารเข้ามาดูโครงการ โดยมีผู้จัดการใหญ่คือมิสเตอร์ตงมิสเตอร์หลิว เป็นรองผู้จัดการ มิสเตอร์หลีเป็นรองผู้จัดการฝ่ายก่อสร้าง ส่วนมิสเตอร์เจินเป็นหัวหน้าฝ่ายควบคุมคุณภาพ
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เหล่านี้ต้องไปขออนุญาตจากกระทรวงแรงงานก่อนเข้ามาทำงานในไทยจากการที่ตนไปตรวจสอบข้อมูล พบว่ามิสเตอร์ตง ซึ่งเป็นผู้จัดการใหญ่ แต่กลับขออนุญาตเข้ามาทำงานเป็นครูสอนภาษาจีน ส่วนมิสเตอร์หลิวก็เข้ามาเป็นครูสอนภาษาจีน ส่วนมิสเตอร์หลีก็เข้ามาเป็นครูสอนภาษาจีนที่ จ.นนทบุรี ส่วนมิสเตอร์เจินก็เป็นครูสอนภาษาจีนเหมือนกัน แบบนี้หลอกรัฐบาลไทย หลอกกองทัพเรือหรือไม่
เป็นไปได้อย่างไรเอาครูสอนภาษาจีนมาคุมก่อสร้างงาน และจนถึงขณะนี้เนื้องานยังเป็นศูนย์ ไม่ได้เริ่มอะไร แถมครูสอนภาษาจีนพวกนี้ยังมานั่งประชุมกับนายทหารเรา ความมั่นคงของรัฐบาลไทยอยู่ตรงไหนงานนี้ไม่รู้ใครต้มใคร ตนบอกมาตลอดว่า บ.csoc ไม่ใช่ตัวแทนรัฐบาลจีนจริง เป็นจีทูจีเก๊
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ปี 66 เรือลำแรกจะส่งมอบให้กองทัพเรือ ปรากฏว่าเรือไม่มีเครื่องยนต์ เพราะจีนผลิตเครื่องยนต์ดีเซลไม่ได้ ต้องไปซื้อจากเยอรมัน ทั้งนี้ ตามสัญญาต้องใช้เครื่องยนต์ดีเซลยี่ห้อ mtu เท่านั้น ปรากฏว่าทางเยอรมันไม่ขายเครื่องยนต์ให้จีน ทำให้เรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์ ทราบว่าจะขอเจรจาเปลี่ยนเอาเครื่องยนต์ของจีนมาใส่แทน
ซึ่งตนจะทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ ฐานะ รมว.กลาโหมและ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร.ว่าห้ามเปลี่ยน เพราะเครื่องยนต์เป็นเรื่องสำคัญ เรืออยู่ใต้น้ำ เกิดเครื่องยนต์เสียขัดข้อง อันตรายอาจตายยกลำได้เหมือนอินโดนีเซียที่เคยมีปัญหาก่อนหน้านี้
“ที่น่าสนใจ คือ บ.csoc มีตัวแทนในประเทศไทยคือ บ.ณัฐพล จำกัด เคยบริจาคเงิน 2 ล้านบาทให้กับมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อด้วยเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.55 ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นประธาน
ส่วนลูกชายเจ้าของ บ.ณัฐพล รวมทั้งเป็นเจ้าของ บ.สกายไอซีที ถามว่าทำไมบริษัทนี้ได้งานเยอะ ก็เพราะแนบแน่นกับ พล.อ.ประวิตร และบ.สกายไอซีที ก็เคยบริจาคเงินโต๊ะจีนให้พรรคพลังประชารัฐถึง 5 ล้านบาท ดังนั้นงานนี้ พล.อ.ประวิตร ต้องรับผิดชอบในฐานะบิดาเรือดำน้ำไทย” นายยุทธพงศ์ กล่าว