เตือนอันตรายถึงตาย!! ป.ป.ส.แจงยาอีหมีพูห์ อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์สารสำคัญ
วันที่ 20 กรกฎาคม 2565 นายวิชัย ไชมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) ได้เปิดเผยถึงการจับกุมยารูปหมีสีเหลือง ที่ จ.นครพนม จำนวน 18,807 เม็ด พร้อมยานอนหลับ จำนวน 54,939 เม็ด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 โดยยาอีและยานอนหลับดังกล่าว จะมีการตรวจพิสูจน์สารแบบละเอียดเพื่อจำแนกสาร ประกอบต่อไป
“ขณะนี้ของกลางยาอีดังกล่าว อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ส่วนผสมเพื่อจำแนกเป็นฐานข้อมูลลักษณะเฉพาะของยาเสพติด (Drug profile) ทั้งนี้ ที่ผ่านมาประเทศ ไทยเคยจับกุมยาอีที่มีลักษณะทางกายภาพคล้ายกับที่ปรากฏเป็นข่าว จำนวน 2 คดี โดยคดีที่ 1 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2564 ที่ ต.นิยมชัย จ.ลพบุรี จับกุม ยาอีรูปหมีสีเหลือง จำนวน 28,930 เม็ด และคดีที่ 2 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2565 จับกุมยาอีรูปหมีสีม่วง จำนวน 42,000 เม็ด โดยทั้ง 2 คดี มีจำนวนสาร MDMA (methylenedioxy methamphetamine) จำนวนใกล้เคียงกันที่ 48 เปอร์เซนต์ “เลขาธิการ
ป.ป.ส. กล่าว
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า ยาอี (Ecstacy) จัดอยู่ในยาเสพติดประเภท 1 มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ methylenedioxy methamphetamine หรือ MDMA โทษทางกฎหมายตามประมวลกฎหมายยาเสพติด หากจำหน่ายและทำหน้าที่เป็นผู้สั่งการมีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต ปรับสูงสุด 5 ล้านบาท หรือประหารชีวิต ผู้ที่เสพยาอีประสาทส่วนกลางจะถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง มีอาการประสาทหลอน เห็นภาพผิดปกติ อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น หายใจเร็ว โดยผู้ที่เสพยาอีเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดโรคทางจิต
“ยาอีเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวกลางคืน บ่อยครั้งจะพบว่า นักเที่ยวจะใช้ยาอีร่วมกับแอลกอฮอลล์รวมถึงยาเสพติดชนิดอื่น เช่น คีตามีน โดยรูปแบบที่ขายกันในหมู่นักเที่ยวมักจะมีลักษณะคล้ายขนมของเด็ก มีสีสด มีรูปร่างที่หลากหลายโดยเชื่อว่ายาอีรูปหมีที่จับกุมได้ที่ จ.นครพนม อาจจะเป็นรูปแบบหนึ่งของการผลิต เพื่อจุดประสงค์ทางการค้า”เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าว
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเตือนว่าผู้ที่เสพยาอีมีฤทธิ์กระตุ้นประสาทส่วนกลางจะถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง มีอาการประสาทหลอน เห็นภาพผิดปกติ อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น หายใจเร็ว โดยผู้ที่เสพยาอีเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดโรคทางจิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับยาเสพติดชนิดอื่นเช่น คีตามีน ยานอนหลับ ที่มีฤทธิ์กดประสาท จะยิ่งเป็นการเสริมฤทธิ์จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอันตรายต่อผู้ใช้โดยอาจก่อให้เกิดภาวะหยุดหายใจ หัวใจล้มเหลว และเสียชีวิตได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ช้าง ถูกล่ามโซ่ กรมอุทยานฯ ชี้ไม่เข้าข่ายทารุณ แนะปรับปรุงสวัสดิภาพสัตว์
งานแห่เทียนคืนสุดท้าย วัยรุ่นไล่ยิงกันสนั่น ดับ1 ยายร่ำไห้รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น