เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เป็นการออกมาชี้แจงที่มาของการไปหาหมอรักษาโรคแพนิก ไบโพลาร์ ครั้งแรกของตลกสาวชื่อดัง ตุ๊กกี้ ชิงร้อย หรือ สุดารัตน์ บุตรพรม หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยออกมาโพสต์ภาพใบสั่งยารักษา

อาการป่วย ที่ทำให้มีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนในวงการบันเทิงให้กำลังใจ ตุ๊กกี้ หลังได้โพสต์ใบรับรองแพทย์ หลายคนสงสัยว่าป่วยเป็นโรคอะไร?

“ตุ๊กกี้” ประชันภาพวัยเด็ก “ลิซ่า blackpink” ไม่เหมือนตรงไหน เอาปากกามาวง!

โดย ตุ๊กกี้ ชิงร้อย ได้เปิดใจผ่านรายการเจ๊คิ้มกินรอบวง ออนแอร์ทางช่องยูทูบว่า เป็นคนที่ดื่มทุกวัน และรักษาไบโพลาร์มาจะ 2 ปีแล้ว ที่ผ่านมาป็นคนอะเลิร์ต เฟรนด์ลี่ ได้ทุกที่ สนุกสนาน ทีนี้ไม่เคยซ้อมผิดหวัง

ว่าโลกใบนี้มีได้กับไม่ได้ ชีวิตเป็นตุ๊กกี้ที่มีแต่ได้ กับ ได้เมื่อไหร่

จนกระทั่งวันนึงโควิดมันมา ความผิดหวังเกิดจากเมื่อก่อนทุกคนเห็นหน้าเรามีแต่ความคาดหวังว่าต้องตลกนะ พอเราถึงเป้า เราอยากเอาความคาดหวังของเราให้คนอื่นทำได้บ้าง ปรากฏว่าสิ่งที่เราคาดหวัง เขาไม่ได้

หวังเหมือนเรา เลยผิดหวัง พอผิดหวังก็โทษตัวเอง มันก็เฉา

พอหัวใจเฉา ก็เริ่มแสดงออกถึงความก้าวร้าว อย่างมีงานแสดงตีห้าถึงตีห้าอีกวันแล้วไปอีกงาน บูบู้จะเป็นคนจัดกระเป๋าให้ แล้ววันนั้นเขาลืมจัด แล้วเขาดื่มจนเมาไม่รับโทรศัพท์ และมีเวลาเปลี่ยนกระเป๋าแค่ 2 ชม.

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือขับรถชนเสาบ้านตัวเองโดยไม่รู้ตัว ระบายออกโดยการกรี๊ดแล้วชน หน้ารถไปทั้งแถบเกือบถึงคนขับ สามีตื่นมาก็บอกว่าไปทำงานก่อนนะ แล้ววันจันทร์ค่อยมาคุยกัน ตัวเองก็ไปทำงาน

โดยไม่ได้เสียใจกับสิ่งที่ทำ ไม่ได้อะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น

สามีก็บอกว่าตอนนี้ไม่โอเคนะ เขาเลยพาไปพบแพทย์ ถึงรู้ว่าตัวเองเป็นแพนิก คิดอยู่เรื่องเดียว พอแพนิกก็ต้องกินยาพักผ่อนสมอง พอการพักผ่อนสมองเสร็จปุ๊บ

รักษาหนึ่งปีผ่านไป สามีไปถามนักดนตรีว่าเรามีอะไรที่เปลี่ยนๆ ไปมั้ย นักดนตรีก็เริ่มพูดทีละคน ว่าเราด่าไม่มีเหตุผล และด่าแรงมาก แค่มาสาย 5 นาที แล้วเราก็ไม่ได้รู้สึกกับสิ่งที่ทำเลย ทั้งวงและแฟนก็มานั่งคุยกัน

ว่าเราป่วย เราเลยไปรักษาประสาทโดยตรง

ปรากฏว่าไม่ได้ไบโพลาร์อย่างเดียว เป็นไบโพลาร์ อะเลิร์ต พลัส คือช่วงตีหนึ่ง ตีสองเงียบๆ จะมีไอเดียที่พรั่งพรูมาก ทำให้ไม่นอน เลยทำให้ต้องดื่ม

คุณหมอจัดยามาชุดนึง แล้วยาตัวนี้ต้องนอน 8-12 ชม. แต่ก็ขอคุณหมอหักยาครึ่งนึง รักษาไปพร้อมคุณหมอ แล้วค่อยมาว่ากัน ซึ่งถึงตอนนี้ก็หาหมอทุกเดือน และมีวินัยมากกับเรื่องนี้

ส่วนคำที่เสียใจที่สุดคือไม่ชอบโดนเปรียบเทียบ วิธีการหาเงินคือต้องร้องเพลง โปรดอย่าเปรียบเทียบกับใคร อาจเป็นเส้นทางนึงที่ตั้งใจแล้วแต่ได้แค่นี้ คนที่พูดเปรียบเทียบไม่ใช่คนมีชื่อเสียง เป็นทีมงาน

เอาจริงๆ ก็อาจเป็นแค่การพูดถึง แต่เพราะมีปมตรงนี้ เพราะตัวเองยังไม่เคยเปรียบเทียบกับใคร