เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ความคืบหน้าภายหลังศาลปกครองกลางแผนกคดีสิ่งแวดล้อมพิพากษาผู้ว่าฯ กทม. และ ผอ.เขตประเวศ ปล่อยให้ตั้งตลาดล้อมบ้านป้าทุบรถโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย สั่งรื้อตลาดทั้ง 5 ภายใน 60 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด พร้อมห้ามมีผู้ค้าไปขายของสร้างความรำคาญแก่บ้านครอบครัวแสงหยกตระการอีก และให้  กทม.ชดใช้เยียวยาครอบครัวแสงหยกตระการที่เดือดร้อนมา 7 ปีเศษ เป็นเงิน 1,473,600 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศของตลาดภายในหมู่บ้านเสรีวิลล่า ซอยศรีนครินทร์ 55 จำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วย ตลาดรุ่งวาณิชย์, ตลาดยิ่งนรา, ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต, ตลาดร่มเหลือง และตลาดสวนหลวง 1 ยังถูกปิดเงียบ มีเพียงผู้ค้าบางรายในตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต และตลาดยิ่งนรา ที่มานั่งเฝ้าอุปกรณ์ร้านค้าภายในตลาด และจับกลุ่มปรับทุกข์กันถึงคำพิพากษาของศาลปกครองคดีป้าทุบรถ ขณะที่ผู้ค้าบางส่วนในตลาดยิ่งนราเริ่มมาทยอยเก็บแผงค้าย้ายไปหาทำเลขายของใหม่

ทั้งนี้ แม่ค้ารายหนึ่งในตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต กล่าวว่า ยังไม่เคลื่อนย้ายแผงค้าออก เนื่องจากต้องการรอฟังความชัดเจนของเจ้าของตลาดว่าจะเอาอย่างไร เพราะเสียค่าทำสัญญาเช่าแผงรายปีไปแล้ว และเคยไปลองขายที่ตลาดที่อื่นก็ไม่สามารถขายได้กำไร เราขายอาหารปรุงสำเร็จวันต่อวัน ทำมาขายไม่ออกก็ขาดทุน ต้องไปกู้เงินนอกระบบมาลงทุนต่อ

ส่วนผู้ค้าในตลาดยิ่งนรารายหนึ่งกล่าวว่า ตอนนี้ไม่มีรายได้มา 2 เดือนกว่าแล้ว เงินทุนก็เริ่มหมด เพราะก่อนหน้าที่ทั้งทางเจ้าหน้าที่  กทม.และเจ้าของตลาดบอกให้อดทนรออีกนิด เดี๋ยวก็จะกลับมาขายใหม่ได้ พวกเราก็รออย่างมีความหวัง แต่ผลคำสั่งของศาลปกครองกลางแผนกคดีสิ่งแวดล้อมที่มาเมื่อวาน ทำให้เราตัดสินใจไม่รอต่อไป ต้องไปหาที่ขายใหม่ ก่อนที่จะอดตายกัน ตอนนี้ก็ได้หวังว่าผู้ว่าฯ กทม.จะลงมาดูและให้การเยียวยาช่วยเหลือพวกเรากลุ่มผู้ค้าบ้าง  เพราะพวกเราทำมาหากินสุจริต โดยไม่รู้ว่าตลาดมีปัญหาไม่ถูกกฎหมายมาก่อน

ขณะที่ น.ส.อัชพิมพ์ อรุณลักษณ์ หนึ่งในผู้อาศัยในหมู่บ้านเสรีวิลล่า ใกล้กับตลาดทั้ง 5 แห่ง รู้สึกดีใจที่ศาลมีคำพิพากษาดังกล่าวออกมา เพราะหมู่บ้านจะได้สงบขึ้น แต่ในส่วนของผู้ค้าหาบเร่แผงลอยนั้น ตนยังไม่แน่ใจว่า กทม.จะดูแลกวดขันได้ตามคำสั่งศาลได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเจ้าหน้าที่ก็มีจำกัด ประกอบกับผู้ค้าบางรายก็พร้อมจ่ายค่าปรับวันละ 2,000 บาท เพื่อแลกกับการตั้งแผงขายอาหารให้คนที่มาเที่ยวสวนหลวง ร.9