เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

มือล้วงมือถือ “โอ๊ตมีล” ขอไกล่เกลี่ย แต่ดันหนีกลับเพราะกลัวสื่อ เผยปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่จะซื้อโทรศัพท์ให้ใหม่

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

จากกรณี “โอ๊ตมีล” นักแสดงซีรีย์วาย ภายใต้สังกัด Mflow Entertainment ถูกมิจฉาชีพล้วงโทรศัพท์มือถือ ก่อนรู้ตัวคนร้ายโปรไฟล์ดี ดีกรีเจ้าของคลินิกความงา แต่กลับกลายมาเป็นโจร ล่าสุดโอ๊ตมีล เดินทางมาพร้อมทนาย ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกมาติดตามคู่กรณีมารับทราบข้อกล่าว แต่เบื้องต้นผู้ก่อเหตุปฏิเสธข้อกล่าวหาอ้างว่าไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ แต่จะซื้อโทรศัพท์คืนให้ วันนี้จึงได้นัดหมายเพื่อมาเจรจาเรื่องค่าเสียหาย

 

 

โอ๊ตมีล กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางติดตามคดีดังกล่าว หลังเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งความที่ สน.พหลโยธิน และได้ไปติดตามดูกล้องวงจรปิด ก่อนจะสืบทราบว่าข้อมูลชื่อ-สกุล Instagram Facebook พร้อมประวัติทราบว่า เป็นถึงเจ้าของคลินิกความงามแห่งหนึ่ง โปรไฟล์สวยหรู ใช้ของแบรนด์เนม ขณะนี้ตนยังไม่เคยพูดคุยกับคู่กรณี คุยกันผ่านทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น

หลังจากสืบหาข้อมูลก็ทราบมาว่า มีผู้เสียหายที่โดนมิจฉาชีพรายนี้ขโมยโทรศัพท์ไปมีมากกว่า 20 ราย มูลค่าความเสียหายตนคิดว่ามากกว่าล้านบาท โดยไม่รวมทรัพย์สินอื่น ๆ ที่ทักมาบอกตน ซึ่งบางคนไม่ได้ตามเรื่องต่อ แต่บางคนเพิ่งโดนขโมยไปวันเดียว แต่อีกวันโทรศัพท์ไปอยู่ที่ปอยเปตแล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่เร็วมาก ๆ ตนจึงคิดว่าน่าจะมีมิจฉาชีพมากกว่า 1 คน หรืออาจจะเป็นขบวนการมิจฉาชีพ

แต่ตนไม่ทราบว่าในคืนวันเกิดเหตุมีมิจฉาชีพอยู่ในสถานบันเทิงดังกล่าวกี่ราย ทราบเพียงแต่ว่าในคืนวันเดียวกันนั้นมีผู้เสียหายที่ถูกลักทรัพย์ แบบตน 4 เครื่อง นอกจากนี้เมื่อตนได้มาดูข้อมูลที่ สน.พหลโยธิน ก็พบว่ามีผู้เสียหายในลักษณะเดียวกันอีกหลายราย

ซึ่งพฤติกรรมของคู่กรณีนั้นมีความชำนาญและตั้งใจเดินตามตนเพื่อล้วงโทรศัพท์ถึง 2 ครั้ง เพราะครั้งแรกของพยายามล้วงโทรศัพท์ที่กระเป๋ากางเกงด้านหลังของตนแต่ทำไม่สำเร็จ ก่อนจะเดินตามไปล้วงอีกครั้ง โดยเขาอาศัยช่วงที่ตนกำลังร่ำลากับเพื่อนก่อนจะออกจากร้านและทำให้สำเร็จ

 

 

อย่างไรก็ตาม ตนไม่หวังว่าจะได้โทรศัพท์คืนแล้ว เนื่องจากพิกัดที่ตนติดตามโทรศัพท์ล่าสุดนั้นพบว่าตอนแรกอยู่ที่เสือป่า ก่อนที่พิกัดจะมาโผล่อีกครั้งบริเวณแยกราชวิถี แต่ตอนนี้กลับไม่พบสัญญาณโทรศัพท์แล้ว ส่วนสาเหตุที่คู่กรณีก่อเหตุในลักษณะนี้นั้น ตนยังไม่ทราบถึงแรงจูงใจ ต้องรอภายหลังจากการพูดคุยเจรจาเสียก่อน เพราะดูจากลักษณะการก่อเหตุนั้น คู่กรณีไม่ได้เลือกรุ่นโทรศัพท์และเป้าหมาย เลือกเพียงแค่โทรศัพท์เท่านั้น

 

 

ตนจึงกังวลว่าข้อมูลที่อยู่ภายในโทรศัพท์ จะหลุดไปถึงมือมิจฉาชีพ เพราะนอกจากที่ตนจะเป็นนักแสดงแล้ว ยังเป็นพิธีกร เอเยนต์ให้กับบริษัทศัลยกรรม อีกทั้งยังมีรูปถ่าย และข้อมูลส่วนตัวของตน นอกจากนี้ภายหลังจากการตรวจสอบประวัติคู่กรณีก็พบว่ามีประวัติการก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้แต่เป็นในพื้นที่อื่นอีกด้วย ตนอยากเจรจากับคู่กรณี เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นมีมูลค่ามาก โดยเฉพาะข้อมูลในโทรศัพท์ตน

เมื่อเวลาผ่านไป โอ๊ตมีล ได้ออกมาเผยว่า ทางคู่กรณีเดินทางมาที่ สน.พหลโยธิน แล้ว แต่เห็นสื่อมาหลายสำนัก เลยเลี้ยวรถกลับไป ก่อนจะติดต่อมาหาตนผ่านทางโทรศัพท์ บอกว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้ หลังจากนี้ตนจะให้ทนายความเป็นคนดำเนินการ เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีอาญา ไม่สามารถยอมความไกล่เกลี่ยได้