เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

รู้แล้วต้องหลอน! เปิดที่มา “หุ่นฝังรูปฝังรอย” คืออะไร? ที่ “พลอย พีรชาดา” ร่ายคาถาสั่งสวยเรียกผู้ชาย

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล เมื่ออยู่เฉยๆ แล้วผู้ไม่รัก ผู้ไม่สน ก็ต้องใช้คาถาคุณไสยเรียกผู้ให้หันมาหน่อย “พลอย พีรชาดา ขุนรักษ์” เลยจัดเต็ม ปล่อยของด้วยการร่ายมนต์ เรียกผู้ “ปรัชญ์ ศิระวนาดร” ท่องบทสวดคาถามหาเสน่ห์ ด้วยการใช้หุ่นฝังรูปฝังรอย ร่ายมนต์เสน่ห์บนเตียง ทั้งสายตา ปาก และท่าบริกรรมคาถาที่เร้าร้อนเข้ากับฉากในละคร เจ้าพ่อ อีพีที่ 15 ในวันอังคารที่ผ่านมา (4 มิถุนายน 67) พร้อมคาถาเด็ด “พุธโธ มามา ธัมโมมามา สังโฆมามา ขอพี่มิ่งเมือง รักกู รักกู รักกู รักกู หลงกู หลงกู เพี้ยง” ต้องบอกว่าได้เห็นฝีมือการแสดงของพลอย ที่เอาอยู่ทุกโหมดอารมณ์ เรียกได้ว่า ทำถึงสุดๆ

 

 

และนี่จึงเป็นที่มาของคาถามหาเสน่ห์ใน ละคร เจ้าพ่อ เป็นละคร ที่อิงกับเรื่องความเชื่อและคาถามนตร์ดำโดยปรับให้เข้ากับยุคปัจจุบัน แม้เรื่องไสยศาสตร์ประเภทนี้ก็ยังถูกถ่ายทอดออกมาให้เห็นเนืองๆ แต่คาถาเหล่านี้ก็ถูกท่องตามกันมาเรื่อยๆ และแพร่หลายในโลกโซเชียล รวมถึงของขลังต่างๆ และที่ปรากฏให้เห็นบ่อยครั้งนั้นก็คือ หุ่นรูปปั้นที่ทำจากดิน ลักษณะเหมือนคนที่ถูกผูกติดกันด้วยสายสิญจน์หรือที่เรียกกันว่า “ฝังรูปฝังรอย”

 

 

โดย หุ่นฝังรูปฝังรอย ถือเป็นการทำเสน่ห์อีกรูปแบบหนึ่ง ด้วยการนำรูปภาพ เสื้อผ้า ของใช้ ด้วยการนำดินมาปั้นเป็นหุ่นคนกอดกันและผูกด้วยสายสิญจน์ซึ่งการทำเสน่ห์ประเภทนี้เพื่อหวังผลด้านการครอบงำจิตใจของอีกฝ่ายด้วยไสยศาสตร์ โดยที่มาของคำสองคำคือ “ฝังรูป” หมายถึง การทำให้นิ่งหยุดอยู่กับที่เหมือนกับคำว่าฝังศพ โดยใช้ รูป ตามความหมายนี้คือรูปร่างลักษณะ จะแปลว่า หุ่นหรือรูปปั้น ซึ่งจะกระทำเป็นรูปปั้นลักษณะใดก็ได้ ชายคู่กับหญิง หญิงคู่กับหญิง ชายคู่กับชาย และ “ฝังรอย” มาจากคำว่า ร่องรอย กำหนดคำสั่งเป็นร่องรอยกำกับไว้ว่า ให้ทั้งสองฝ่ายรักกันและอยู่ร่วมกันตลอดกาลนาน ตามความต้องการของผู้กระทำ ดังนั้นคำว่าฝังรูปฝังรอย จึงให้ความหมายว่า การทำให้คนสองคนรักกันโดยสร้างร่องรอยไว้กับหุ่นรูปปั้น ซึ่งมีจุดประสงค์ทำให้บุคคลเป้าหมายหลงรักอย่างหัวปักหัวปำ ที่ประกอบไปด้วย สีผึ่ง,ดิน,ใบรัก และ สายสิญจน์