เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีแม่วัย 50 ปี ร้องเรียนทีมข่าวว่า น้องแฟรงค์ ลูกชายวัย 12 ปี กับเพื่อน ถูกกลุ่มวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์มากัน 3 คัน 6 คน เบียดรถจักรยานยนต์ของลูกล้ม แล้วจอดรถลงมารุมทำร้ายร่างกาย โดยใช้อาวุธตี-ฟันไปที่ศีรษะและลำตัว ใช้เท้าเตะซ้ำ จนได้รับบาดเจ็บสาหัสโคม่า และเพื่อนที่ซ้อนท้ายมาเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนพุทธมณฑลสาย 2 มุ่งหน้าออกถนนเพชรเกษม เวลา 01.30 น. วันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของ สน.หลักสอง

แม่น้องแฟรงค์ เล่าว่า คืนนั้นน้องแอบออกไปขับรถเล่นกับเพื่อนอีกคน คือน้องโจโจ้ อายุ 12 ปี เพราะตนไม่อยู่บ้าน ปกติน้องจะอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ชอบเตะฟุตบอลที่โรงเรียน ส่วนผู้ก่อเหตุตนเชื่อว่าน้องไม่รู้จักกันอย่างแน่นอน

หลังนำตัวทั้ง 2 คนส่งโรงพยาบาล แพทย์ได้แจ้งอาการว่า ลูกชายสมองบวม เลือดคั่งในสมอง ต้องผ่าตัดเปิดสมองออก ซึ่งสมองเละมาก ไม่สามารถเย็บปิดสมองได้ มีโอกาสรอดแค่ 1% ไม่สามารถปั๊มหัวใจยื้อชีวิตได้ เพราะเสี่ยงที่กระดูกซี่โครงน้องจะหัก

อยากฝากให้พวกผู้กระทำผิดออกมารับผิดชอบ อยากถามว่าทำไปทำไม น้องยังเด็กอยู่ ทำไมต้องทำกันรุนแรงแบบนี้ ยืนยันว่าหากพวกเขามาขอโทษ ตนจะไม่รับอโหสิกรรมเป็นอันขาด เพราะพวกเขายังมีพฤติกรรมข่มขู่เพื่อนของลูกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งฝากพ่อแม่ผู้ปกครองว่า อย่าปล่อยให้ลูกออกมาจากบ้านในยามวิกาลแบบนี้ เพราะโลกข้างนอกตอนนี้อันตรายมาก

ขณะที่ญาติน้องโจโจ้ ผู้เสียชีวิต เล่าว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุ ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไล่มาตั้งแต่พุทธมณฑล สาย 1 จนถึง สาย 2 ตนเชื่อว่ามูลเหตุน่าจะเกิดจากกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้าใจผิด คิดว่าน้องโจโจ้และน้องแฟรงค์เป็นเด็กช่าง ทั้งที่น้องทั้งสองคนแค่ใส่เสื้อแขนยาวที่อาจดูคล้ายเด็กช่าง และน้องทั้งสองคนเรียนอยู่แค่ชั้น ป.6 เท่านั้นเอง เท่าที่ทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มนักเรียนอาชีวะแห่งหนึ่งย่านเพชรเกษม

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้กระทำความผิดเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้ง 7 ราย โดยหนึ่งในนั้นพบว่าเป็นผู้ใหญ่อายุ 19 ปี 1 ราย และที่เหลืออายุเฉลี่ย 13-16 ปีจำนวน 6 ราย