เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

กรุงเทพฯ — เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้ออกมาชี้แจงถึงสถานการณ์ที่น่าจับตามองเกี่ยวกับพรรคประชาชน (ที่เดิมคือพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล) หลังมีการยื่นเรื่องให้ตรวจสอบการตั้งสาขาพรรคและกระบวนการรับบริจาคเงินของพรรค ซึ่งอาจนำไปสู่การพิจารณายุบพรรคหากพบการกระทำผิดกฎหมาย

นายแสวงอธิบายว่า ตามกฎหมายการเมืองไทย พรรคการเมืองที่จัดตั้งใหม่จะต้องมีสมาชิกพรรคไม่น้อยกว่า 5,000 คน และจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองอย่างน้อยภาคละ 1 สาขาภายในระยะเวลา 1 ปี พรรคประชาชนซึ่งได้รับการเปลี่ยนชื่อมาจากพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ได้มีการขอยกเลิกสาขาพรรค 3 แห่ง เหลือเพียงสาขาภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้พรรคต้องรีบจัดตั้งสาขาพรรคใหม่ให้ครบตามเงื่อนไขกฎหมายภายในวันที่ 3 เมษายน 2568

นอกจากนี้ นายแสวงยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการรับบริจาคของพรรคประชาชน โดยเฉพาะในประเด็นการใช้บัญชีธนาคารที่ไม่ใช่ชื่อพรรค และการรับบริจาคผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งอาจขัดต่อข้อกำหนดทางกฎหมาย นายแสวงเตือนว่าพรรคการเมืองที่รับบริจาคเงินทุกจำนวนจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้บริจาคและออกใบเสร็จให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้พรรคถูกยุบ

เมื่อถูกถามถึงกรณีที่มีผู้คัดค้านการเปลี่ยนชื่อพรรคเป็น “พรรคประชาชน” นายแสวงระบุว่า กฎหมายพรรคการเมืองกำหนดหลักเกณฑ์ชัดเจนเกี่ยวกับชื่อและสัญลักษณ์ของพรรค ซึ่งนายทะเบียนจะพิจารณาตามหลักเกณฑ์เหล่านี้ ไม่ใช่ตามความรู้สึกหรือความคิดเห็นส่วนตัว

สถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากหากพรรคประชาชนไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายได้สำเร็จ อาจนำไปสู่การถูกยุบพรรค ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองของพรรคและผู้สนับสนุนในอนาคต.

ข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เริ่มประชุมพิจารณาและลงมติ ชี้ชะตา เศรษฐา