เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

แถลงเปิดใจ “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ขอบคุณทุกเสียงโหวต ลั่นไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่งที่สุดในห้อง จะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถและจำทำงานหนักเพื่อประชาชนต่อไป

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ล่าสุดวันนี้ที่อาคารวอยซ์ สเปซ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ว่าที่นายกฯ คนที่ 31 ได้จัดแถลงข่าวโดยมีแกนนำพรรค รัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย สส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทย รอให้การต้อนรับ ทันที่ที่น.ส.แพทองธาร เดินทางมาถึง บรรดาสมาชิกพรรคเพื่อไทย ต่างปรบมือต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยอุ๊งอิ๊งได้เดินทักทายจับมือขอบคุณอย่างเป็นกันเอง โดยมีสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมกับน้ำตาคลอด้วยความตื้นตัน

 

 

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ต้องขอขอบคุณเสียงโหวตจากตัวแทนประชาชนทุกคน ซึ่งตนและทีมคิดว่าจะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่อะไรก็ตามที่ได้รับมอบหมาย และขอขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ที่ได้ทำงานหนักมาตลอดเกือบหนึ่งปีเต็ม แน่นอนว่าเราทุกคนก็พร้อมที่จะทำงานหนักเพื่อพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม ตนขอให้มีการโปรดเกล้าฯ ลงมาก่อน แล้วจะพูดเรื่องการบริหารอีกครั้ง และวันนี้ตนตั้งใจจะมาขอบคุณคะแนนโหวตมากกว่า ตอนนี้รู้สึกตื่นเต้น ปกติเวลาที่จะมาพูดหน้าไมโครโฟน จะไม่รู้สึกตื่นเต้น แต่วันนี้รู้สึกตื่นเต้นจริงๆ

 

 

เมื่อถามว่าคนที่แสดงความยินดีคนแรกคือใคร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เมื่อสักครู่ตนอยู่กับสามี พี่ชายและพี่สาว และได้มีการเฟซไทม์กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ท่านบอกว่าเมื่อได้รับโปรดเกล้าฯ แล้วก็ขอให้ทำให้เต็มที่ รวมถึงแซวว่าดีใจที่มีหวังว่าจะได้เห็นลูกสาวได้รับตำแหน่งก่อนที่ท่านจะได้เป็นอัลไซเมอร์ เพราะท่านอายุมากแล้ว ซึ่งพูดกันเล่นๆ และท่านก็เป็นกำลังใจให้เสมอ ส่วนคุณแม่ก็เป็นห่วงบ่อย ท่านก็โทรมาถามว่าทานข้าวหรือยัง ตอนนั้นตนกำลังทานข้าวอยู่ ท่านก็ทราบ จึงบอกคุณแม่ว่าจะดูแลตัวเองให้ดี

เมื่อถามว่ารู้สึกกดดันกับตำแหน่งที่จะได้รับหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราสามารถจัดการกับความกดดันได้ ส่วนมายด์เซ็ตที่เข้ามาทำงานทางการเมือง ตนไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ดีที่สุด เก่งที่สุดในห้อง มีแต่คิดเสมอว่าเรามีแรงผลักดันที่ชัดเจน และมีทีมที่ดี มีความเข้มแข็ง มีแนวคิดไปในทิศทางเดียวกับเรา ถือว่าเรามีความโชคดีตรงนี้ และคิดว่าไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งตรงไหนก็ตาม เมื่อเรามีทีมที่ดีเราก็จะประสบความสำเร็จได้

 

 

เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรกับกรณีนายเศรษฐา หลุดจากตำแหน่ง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนั้นตนอยู่บนเครื่องบินกำลังเดินทางกลับมาจากประเทศจีน เมื่อได้ทราบข่าวก็รู้สึกเสียใจ เมื่อกลับมาถึงประเทศไทยได้มีการพูดคุยกับนายเศรษฐา ครอบครัว รวมถึงคนในพรรคว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำอะไรสักอย่างให้กับประเทศ แล้วหวังว่าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าไปได้ ทำให้ประชาชนมั่นใจ สร้างโอกาส และยกระดับคุณภาพชีวิต นี่คือสิ่งที่ตนพยายามจะทำ