เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวันที่ 15 ก.ย 67 เวลา 19.30 น. ที่ผ่านมา พรรคประชาชน ได้ตั้งโต๊ะแถลงถึงผลการเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 ซึ่งมีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง จำนวน 2 ราย คือ หมายเลข 1 โฟล์ค ณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ จากพรรคประชาชน และ หมายเลข 2 บู้ จเด็ศ จันทรา ตัวแทนจาก พรรคเพื่อไทย

โดย ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่า ผลปรากฏค่อนข้างชัดเจน พี่น้องพิษณุโลกให้ความไว้วางใจคุณจเด็ศ พรรคเพื่อไทย ไปเป็นผู้แทนราษฎร

ต่อมา โฟล์ค ณฐชนน เผยว่า ขอแสดงความยินดีกับพี่บู้ จเด็ศ ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ เราเข้าจ เรารู้จักกัน หวังว่าพี่บู็จะทำสิ่งดีๆ ให้ำับพิษณุโลกเขต 1 ตนขอขอบคุณพ่อแม่พี่น้องประชาชน ที่ออกมาใช้สิทธิใช้เสียง ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น สมบูรณ์ รักษาไว้ซึ่งหลักการประชาธิปไตย ขอให้ทุกท่านปรบมือให้กำลังใจทีมงานของตนด้วย

ขณะที่ นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน กล่าวว่า สิ่งที่พรรคประชาชนจะต้องกลับมาโฟกัสคือการตั้งพรรค หลังจากที่เราได้ก่อร่างสร้างพรรคมา ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. จะมีการอบรมสมาชิกพรรค เพื่อวางแผนการสร้างพรรค จากนั้นเราจะเลือกตั้งตัวแทนสมาชิกพรรค ทั้งระดับสาขาพรรค รวมถึงตัวพรรคประจำอำเภอ ตำบล คาดว่าจะเริ่มเลือกตั้งในเดือน พ.ย.นี้

นายศรายุทธิ์ กล่าวต่อว่า การเดินทางของเราจะเดินหน้าสร้างพรรคให้เป็นของประชาชน การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา การสร้างพรรคที่เข้มแข็ง คือหลักประกันที่ทำให้เรามั่นใจว่า เราจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับลูกหลานของเราในอนาคต

นายพริษฐ์ กล่าวว่า เวลานี้ไม่ใช่เวลาของการมาท้อ ไม่ใช่เวลาของการมาเสียใจ เป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย ที่มีการเรื่องแพ้การชนะ ยิ่งการแข่งขันมีความเข้มข้นมากเท่าไหร่ ยิ่งผู้สมัครแข่งกันแย่งกันเอาชนะใจประชาชนมากเท่าไหร่ ผลประโยชน์สูงสุดย่อมตกอยู่กับพี่น้องประชาชน

นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า ตนขอเป็นตัวแทนของพรรค อวยพรให้คุณจเด็ศ ผู้แทนราษฎรคนใหม่ ประสบความสำเร็จในการเดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน เขต 1 ยิ่งคุณจเด็ศทำงานอย่างสำเร็จเท่าไหร่ ผลประโยชน์สูงสุดจะตกอยู่กับพี่น้องประชาชน

นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า พรรคประชาชน ยืดอกยอมรับผลการเลือกตั้งและเดินหน้าทำงานต่อ การทำงานในพื้นที่ ตนมีความมั่นใจว่า ถึงแม้วันนี้โฟล์คอาจจะยังไม่ได้เป็นตัวแทนของพี่น้องชาวพิษณุโลกในสภาฯ แต่เชื่อว่าทั้งโฟล์ค และทีมงานในพื้นที่ จะเดินหน้าทำงานต่อ ในการรับใช้พี่น้องประชาชน เขต 1 เหมือนกับที่ทำมาตลอด แม้ยังไม่เคยมีตำแหน่งผู้แทนราษฎร

นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการเมืองระดับประเทศ พรรคประชาชนมีผู้แทน 143 คนในสภาฯ เราจะเดินหน้าทำงานต่อ ใช้กลไกสภาเพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน

นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มี 2 อย่างที่สำคัญเฉพาะหน้า คือ 1 ปัญหาน้ำท่วม ปัจจุบัน สส.หลายคน โดยเฉพาะสส.เขต ในพื้นที่ประสบภัย พยายามทำเต็มที่ ในการช่วยประสานงานให้กับพี่น้องประชาชน ถ้าเราสามารถจัดทำข้อเสนอให้รัฐบาลได้ครบถ้วนขึ้นในการช่วยเหลือ ทั้งการเตรียมสำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเพิ่มเติมหลังจากนี้ หรือการเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยไปแล้ว เราจะรวบรวมข้อมูลและเร่งยื่นข้อเสนอดังกล่าวให้รัฐบาลสามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างตรงจุดมากขึ้น

นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนอย่างที่ 2 เราจะมีการประชุมสภา จะใช้กลไกสภาอย่างเต็มที่ เราามีกฎหมายสำคัญที่ยื่นเข้าสภาฯ เช่น สุราก้าวหน้า พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า แก้ปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจ ให้มีการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ป้องกันการผูกขาด ยืนยันว่าวันนี้ไม่ใช่วันที่เราจะมาท้อ หมดกำลังใจ แต่เป็นวันที่เราจะยืดอกยอมรับผล และเดินหน้าทำงานต่อ เพื่อผลักดันเรื่องที่จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนทุกคน

ทั้งนี้เมื่อถามว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้พ่ายแพ้เลือกตั้งในครั้งนี้ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าพี่น้องประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิในทุกการเลือกตั้ง เป็นโอกาสในการจะเลือกใหม่ คิดว่าสรุปมาเป็นปัจจัยหนึ่งปัจจัยใดไม่ได้ พี่น้องประชาชนแต่ละคนคงมีปัจจัยที่แตกต่างออกไป ตนคิดว่าเราทำเต็มที่ ยอมรับว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ เราอาจจะยังไม่สามารถได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนเขต 1

นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นจากการวิเคราะห์คะแนนบัตรดี เมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกตั้ง ปี 2566 กับปี 2567 ในปี 2566 เราเข้าเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ประมาณ 41% ของบัตรดี รอบนี้เราเป็นอันดับ 2 ไม่ได้รับชัยชนะ แต่ถ้าเทียบตามสัดส่วน เพิ่มขึ้นมา 45% เชื่อมั่นว่าเรายังได้รับความเชื่อมั่น ความไว้วางใจจากพี่น้องชาวพิษณุโลกในระดับหนึ่ง

เมื่อถามพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ส่งผู้สมัคร อาจทำให้ดึงคะแนนของพรรคประชาชน นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของพี่น้องประชาชนที่จะวิเคราะห์กันอยู่แล้วว่าตัวเลข หรือปัจจัยต่างๆ เป็นเช่นไร ในฐานะคนทำงานการเมืองในระบบประชาธิปไตย เราต้องพร้อมทุกสนาม ไม่ว่าจำนวนผู้สมัครเลือกตั้งจะเป็น 2 คน 3 คน หรือ 10 คน แต่ยังยืนยันว่ายิ่งเราแข่งขันกันเท่าไหร่ ผลประโยชน์ก็ตกอยู่กับพี่น้องประชาชน

นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งแต่ละครั้งจะมาเปรียบเทียบทั้งหมดก็อาจจะยาก เพราะปัจจัยแตกต่างกันไปบ้าง ทุกการเลือกตั้งเป็นโอกาสใหม่ที่พี่น้องประชาชนชนจะเลือก ไม่ว่าจะเป็นเวทีระดับประเทศ การเลือกตั้งใหญ่ เลือกตั้งซ่อม เลือกตั้งระดับชาติหรือท้องถิ่น ตนคิดว่าวันนี้เรายอมรับว่าเราไม่ได้เป็นพรรคที่ได้รับความไว้วางใจสูงที่สุดจากชาวพิษณุโลก เราก็ยืดอกยอมรับและเดินหน้าทำงานต่อ หวังว่าการยกระดับมาตรฐานการทำงานของเราจะนำไปสู่ความไว้วางใจที่เพิ่มกลับมาจากที่พี่น้องประชาชน ทั้งพิษณุโลกและทั่วประเทศ

นายณฐชนน กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับตนการที่เข้ามาสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ แล้วมีประชาชนถึง 2 หมื่นกว่าคนให้ความไว้วางใจเรา ทั้งที่เขาอาจจะไม่รู้จักตน ถือว่าเป็นการกำลังใจในการทำงานที่ดีมากๆ ตนอยากส่งกำลังใจกลับคืนไปว่า แม้วันนี้ความไว้วางใจที่เราได้รับอาจจะยังไม่ทำให้เราชนะในการเลือกตั้ง แต่ไม่ทำให้เราแพ้หรือถอดใจในการทำงาน

นายณฐชนน กล่าวต่อว่า ตนหวังว่าต่อให้ท่านไม่เลือกหรือเลือกตนก็ดี ยืนยันว่าตราบใดที่ตนยังมีประโยชน์ต่อชาวพิษณุโลก เขต 1 ตนสามารถเป็นปากเป็นเสียงและสามารถแก้ไขปัญหาใดๆ ให้ท่านได้ ตนก็ยินดีจะรับใช้ชาวพิษณุโลก เขต 1 ต่อไป

นายณฐชนน กล่าวอีกว่า ไม่ว่าการเลือกตั้งในอนาคตที่จะมาถึงจะเป็นอย่างไร จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เราย้ำจุดยืนและแสดงออกเสมอว่า ให้เอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ทำงานให้ดีที่สุดในทุกวัน รณรงค์ทางความคิดกันต่อไป และหวังว่าทุกท่านจะได้รับกำลังใจที่ส่งให้กัน แล้วสู้ต่อไปด้วยกัน

 

ข่าวที่น่าสนใจ