จากกรณีพนักงานบริษัทเอกชน รับหน้าที่จากสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.นครพนม มายกหม้อแปลงและตัดกระแสไฟฟ้าของบ้านคุณยายวัย 68 ปี ซึ่งป่วยติดเตียง หลังจากค้างชำระค่าไฟ 2 เดือน ขณะที่หลานสาวระบุได้อ้อนวอนว่ายายอยู่ตามลำพัง ทำให้อุปกรณ์การแพทย์หยุดทำงาน ส่งผลให้ผู้ป่วยไม่สามารถหายใจเองได้ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ก่อนมีเจ้าหน้าที่มาติดตั้งหม้อแปลงไฟภายหลัง เหตุเกิดวันที่ 2 ต.ค.67 ที่ต.วังยาง อ.วังยาง จ.นครพนม
สำหรับความคืบหน้า วันที่ 3 ต.ค.67 นางสุธาริณี อายุ 42 ปี หลานสะใภ้ยายเกียน ผู้ตาย เปิดเผยว่า วันที่เจ้าหน้าที่มายกหม้อแปลง ตนอยู่และเห็นเหตุการณ์ ขณะนั้นคนมาตัดไฟบอกว่าให้ไปเสียค่าไฟ ถ้าเสียค่าไฟแล้วจะไปติดตั้งหม้อให้ พนักงานเอกชนคนนี้เขาไม่ฟัง ก็มาตัดหม้อไป ขณะนั้นมีคนในบ้านตะโกนบอกว่าในบ้านมีคนป่วยติดเตียงอยู่ อย่าเพิ่งถอดหม้อไปเลย
นางสุธาริณี กล่าวว่า หลังจากถูกยกหม้อแปลงไป คนป่วยก็นอนอยู่แบบนั้น อุปกรณ์ที่ต้องใช้ไฟฟ้ามีเครื่องหายใจ เตียงลม หลังจากถูกยกมอเตอร์ไป ตนจึงไปจ่ายค่าไฟในอีก 1 ชั่วโมง รวม 2 เดือน เป็นเงิน 1,150 บาท จากนั้นอีก 1 ชั่วโมงต่อมา พนักงานคนเดิมที่ยกมอเตอร์ไปก็มาติดตั้งคืน น่าจะถามก่อนว่ามีคนป่วยอยู่ในบ้านหรือไม่ หรืออะลุ่มอล่วยได้มั้ย
ญาติพี่น้องยายวัย 68 ปีอีกราย กล่าวว่า ยายป่วยติดเตียงเดินไม่ได้ พนักงานมายกหม้อแปลงไป โดยไม่ถามเหตุผล ลูกหลานยายรับไม่ได้ ก่อนจะยกมอเตอร์น่าจะเดินมาถามบ้างว่ามีผู้ป่วยอยู่ในบ้านหรือไม่ รู้สึกเสียใจและสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เคยเห็นแต่เคสอื่น ไม่คิดว่าจะเป็นในครอบครับตนเอง
ขณะที่นายธี อายุ 32 ปี พนักงานบริษัทเอกชนที่มายกหม้อแปลง กล่าวว่า วันนั้นตนไปถอดหม้อช่วง 9 โมงครึ่ง ญาติไปจ่ายเงินตอน 10 โมง จึงไปใส่หม้อคืนช่วง 11 โมงของวันเดียวกัน มาทราบอีกทีจากญาติว่าคุณยายเสียชีวิตประมาณช่วงตี 2 รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่รู้จริงๆ ว่าในบ้านหลังนี้มีผู้ป่วยติดเตียง ถ้ารู้ข้อมูลก็คงไม่ถอดหม้อแปลงไป
ด้านนายทวี สราญรมย์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) นครพนม กล่าวว่า ถือว่าเป็นบทเรียนของการไฟฟ้า ในเรื่องการปรับปรุงการให้บริการ ที่ผ่านมามีการประชาสัมพันธ์ในโลกโซเซียลขององค์กร แต่อาจไม่ทั่วถึงทำให้ชาวบ้านไม่เข้าใจ ถามว่าทางเราผิดเลยเหรอ บางทีคนทำงานด้านบริการก็โดนสังคมต่อว่าก็ไม่เป็นไร ก็น้อมรับทุกคอมเมนท์ทุกสื่อว่าจะเราปรับปรุงอย่างไร
ผู้จัดการ กฟภ.นครพนม กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาอาจจะขาดตกบกพร่องในเรื่องข้อมูล ซึ่งในวันนี้ทางนายอำเภอวังยาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทาง กฟภ. ทางอำเภอ สาธารณสุขมาประชุมกันที่ที่ว่าการ อ.วังยาง เพื่อหาแนวทางแก้ไข หรือประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้ไฟเข้าใจในระเบียบหลักเกณฑ์ เพื่อให้ผู้นำชุมชนทราบและนำไปประชาสัมพันธ์ต่อไป